การมีอุปกรณ์เสริมบนถนนหลายประเภทช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้งานได้มากขึ้นหลายเท่า ไม่แปลกที่เวลาเราเดินทางไปไหนมาไหนนอกจากกรวยจราจรที่เราเห็นกันจนชินตาแล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกชิ้นที่พบเจอได้บ่อยโดยเฉพาะตามแยกถนน นั่นคือ เสาล้มลุกจราจร นี่คืออุปกรณ์จราจรที่ช่วยให้การขับขี่ของทุกท่านรวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์ทุกคนรู้สึกเบาใจมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านเลยทีเดียว แต่ก่อนจะไปดูเหตุผลของการควรมีเจ้าสิ่งนี้ไว้บนท้องถนน ร้านไทยจราจร ขอแนะนำให้รู้จักคร่าว ๆ เกี่ยวกับเจ้า เสาล้มลุกจราจร ก่อนดีกว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่มีความสูงราว 80 ซม. มีแถบคาดสะท้อนแสงอย่างน้อย 3 แถบ เพื่อเพิ่มความชัดเจนต่อการมองเห็นทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนใหญ่ถูกผลิตจากวัสดุประเภท EVA (Ethylene and Vinyl Acetate), Polyurethane จุดเด่นคือมีความยืดหยุ่นสูงมาก เมื่อโดนสัมผัส , เหยียบ , ทับ จะคืนสภาพกลับมาตั้งเหมือนเดิมได้ เนื้อวัสดุค่อนข้างแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนานมากกว่าพลาสติกทั่วไปหรือไฟเบอร์กลาส ซึ่งเนื้อวัสดุตัวนี้สามารถทนความร้อนและความเย็นได้ดีในระดับ 60 องศา ถึง -60 องศา เลยทีเดียว เมื่อเราพูดถึงลักษณะภาพรวมพอสังเขปแล้วคราวนี้ ร้านไทยจราจร จะมาบอกเหตุผลให้ฟังว่าทำไมบนท้องถนนของเราจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ตัวนี้ รับรองมีอะไรมากกว่าที่หลายคนคิดไว้แน่

1. ช่วยลดอุบัติเหตุการจราจรพร้อมช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ – เรื่องแรกที่อุปกรณ์ชิ้นนี้ควรตั้งอยู่บนท้องถนนก็เพราะช่วยลดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยด้านการขับขี่ได้ดี คิดภาพตามง่าย ๆ นะครับ หากเราขับรถอยู่แล้วบังเอิญว่าถนนเส้นที่เราขับไปนั้นมันดันแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางพอดี หากไม่มีเจ้าเสาล้มลุกนี้วางตั้งเอาไว้ก่อนอย่างน้อย 4-5 แท่ง หากเรามองไม่เห็นทางแยกดังกล่าว อาจทำให้รถของเราพุ่งชนเข้ากับขอบทางแยกได้พอดีกลายเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงได้ 

2. สังเกตเส้นทางข้างหน้าได้ง่ายมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน – ด้วยแถบสะท้อนแสงของ เสาล้มลุกจราจร ทำให้ช่วงเวลากลางคืนเราสามารถสังเกตเส้นทางข้างหน้าได้ว่าเป็นเช่นไรโดยเฉพาะเส้นทางที่ไม่ค่อยคุ้นชิน จำไว้ง่าย ๆ คือเมื่อใดก็ตามที่เห็นเสาล้มลุกอยู่ข้างหน้า แสดงว่าเส้นทางต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือเป็นทางแยกแน่ มันจะช่วยให้เราชะลอรถโดยอัตโนมัติแล้วขับไปตามเส้นทางอย่างเหมาะสม

3. หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงทั้งรถและคนจะได้รับแรงกระแทกน้อยลง – กรณีที่อาจขับรถมาด้วยความเร็วสูงหรือถนนลื่น พอเบรกไม่อยู่แล้วรถไถลพุ่งชนไปกับเสาล้มลุกตัวนี้ เสาจะรองรับแรงกระแทกพร้อมดูดซับการสั่นสะเทือนได้ดีเยี่ยม หลังจากเสาโดนกระแทกด้วยแรงรถก็จะกลับเด้งขึ้นมาใหม่ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเสา ในส่วนตัวรถก็ไม่เกิดความเสียหายมากนัก ทั้งยังช่วยลดระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุที่อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บของผู้ขับขี่พร้อมผู้โดยสารลงได้มาก 

4. ป้องกันการเกิดไฟลุกท่วมได้ดี –โดยเฉพาะรถติดแก๊สหรือรถมีปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้า หากเกิดอุบัติเหตุชนเข้าแรง ๆ มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดไฟลุกท่วมขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วหากชนเข้ากับวัสดุอื่น ๆ ทว่าถ้าชนเข้ากับเสาล้มลุก ด้วยคุณสมบัติของตัวอุปกรณ์ที่ผลิตจากวัสดุทนไฟทนความร้อนได้สูง ดังนั้นการเกิดไฟไหม้จะช้าลง อีกทั้งยังเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีอีกต่างหาก

5. ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับรถคันข้างหลัง – การมีเสาล้มลุกไม่ใช่แค่การป้องกันรถยนต์ที่พุ่งชนตัวเสาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่มันยังช่วยทำให้รถคันหลังไม่เกิดความเสียหายได้ด้วย หลายคนคงสงสัยว่าทำได้อย่างไร ร้านไทยจราจร จะยกตัวอย่างให้เห็นภาพครับ สมมุติว่ารถคันหน้าขับมาแล้วมีรถคันหลังไล่มาตามปกติ เผอิญรถคันหน้าไม่คุ้นชินเส้นทางไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีทางแยก พอเห็นเสาล้มลุกเขายังสามารถหักหลบไปยังทางที่ปลอดภัยได้ไม่พุ่งชนขอบทางแยก ทำให้รถที่ตามมาก็ไม่เกิดอาการตกใจ ช่วยให้สามารถเบรกรถได้ทัน ไม่ชนท้ายจนกลายเป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อนกันไปอีก

6. ช่วยสังเกตความแตกต่างของช่องทางการจราจรได้ชัดมากขึ้น – บางทีการขับรถไปยังเส้นทางไม่คุ้นชิน หากไม่มีอุปกรณ์สัญญาณจราจรบอกอะไรไว้ให้ได้รับรู้เลย มันก็เป็นเรื่องยากในการเดินทาง ทว่าเมื่อมีเสาล้มลุกบอกว่าข้างหน้ากำลังจะเป็นแยกซ้ายขวา, เป็นทางเลี้ยวโค้งซ้าย, ทางร่วมทางแยก ก็จะทำให้ผู้ขับขี่เข้าใจเส้นทางมากขึ้น แถมยังช่วยลดในเรื่องอุบัติเหตุได้ดีอีกทางหนึ่งด้วย

ต้องยอมรับนะครับว่าการมีอุปกรณ์จราจรบนท้องถนน หลักใหญ่ใจความคงเป็นเรื่องของความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งการวาง เสาล้มลุกจราจร ตามเส้นทางต่าง ๆ ก็ถือเป็นอีก 1 ตัวช่วยเพื่อช่วยรักษาชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับขี่ ร้านไทยจราจร จึงอยากจะขอฝากให้เพื่อนผู้อ่านทุกท่านได้พึงระวังกันสักนิดเกี่ยวกับการขับรถโดยเฉพาะเส้นทางไม่คุ้นชิน ควรขับขี่อย่างระมัดระวัง อย่าประมาทเป็นสิ่งดีที่สุดครับ เพราะหากยังขับขี่บนความประมาท ต่อให้มีอุปกรณ์ดีขนาดไหน ก็ไม่สามารถช่วยดูแลชีวิตและทรัพย์สินของคุณได้เลย