ไม่ว่าใครต่างก็อยากให้เนื้องานที่ทำออกมาดีด้วยกันทั้งนั้น อย่างเรื่องของการทีสีถนนเองก็เช่นกัน เรามักเห็นว่ามีหลายเส้นทางที่สีตามเส้นจราจรต่าง ๆ เกิดการลอกล่อนจนทำให้ไม่รู้เลยว่าถนนเส้นนั้นต้องขับรถอย่างไร สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง บางถนนจึงตัดปัญหาด้วยการเลือกใช้งาน เทปติดถนนสะท้อนแสง ไปเลยจะได้ไม่ต้องกลัวว่าพอทิ้งระยะไปสักพักหนึ่งจะเกิดการหลุดลอกออกจนมองไม่เห็น กระนั้น ร้านไทยจราจร จะมานำเสนอเคล็ดลับในการทาสีถนนว่าควรเลือกทาอย่างไรไม่ให้เกิดการลอกล่อน สามารถอยู่ได้คงทน ยาวนาน และไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุด้วย
1. เลือกสีที่มีคุณภาพสูงมาใช้งาน – เคล็ดลับแรกไม่มีอะไรยุ่งยากเลยเพียงแค่มองหาสีที่นำมาใช้ต้องเป็นสีคุณภาพสูง เรื่องราคาอาจแพงกว่าสีทั่วไปหน่อยทว่าเมื่อมองความคุ้มค่าระยะยาวยังไงก็คุ้ม คิดดูว่าเลือกซื้อสีคุณภาพสูงมาทาถนนต้องลงทุนหนักหน่อยแต่ลงทุนเพียงครั้งเดียวแล้วจบเลยในทางกลับกันการเลือกสีไม่ได้คุณภาพหรือสีราคาถูกมาใช้งานในช่วงแรกอาจเสียเงินน้อยกว่าก็จริงแต่พอสีเกิดการลอกล่อนก็ต้องมาแก้ไข มาทำซ้ำ สรุปเสียทั้งค่าสีและค่าแรงคนเพิ่มเติมไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่นิดเดียว
2. ผสมสีให้ได้มาตรฐานที่ระบุเอาไว้ – กรณีเลือกใช้สีเทอร์โมพลาสติกจำเป็นต้องผ่านการต้มก่อน ดังนั้นต้องรู้สัดส่วนที่ดีในการใช้ความร้อนและการเทสีลงไปอย่างเหมาะสม เพราะถ้ามีการผสมด้วยมาตรฐานที่ถูกต้องก็จะทำให้สีติดทนนาน ไม่ลอกล่อน และที่สำคัญเลยคือหากบรรจุภัณฑ์ของสีมีเทคนิคอะไรบอกเกี่ยวกับการใช้งานของยี่ห้อนั้น ๆ ก็ให้ทำตามเพราะแต่ละยี่ห้ออาจมีลักษณะการผสมหรือการต้มต่างกันออกไป ต้องสังเกตให้ดีด้วย
3. เลือกช่วงเวลาในการทาอย่างเหมาะสม – ช่วงเวลาในการทาจัดเป็นอีกเคล็ดลับสำหรับการทาสีถนนให้หลุดลอกยาก ทางที่ดีที่สุดคือควรทาในช่วงเวลาที่ความชื้นน้อย ไม่เป็นช่วงเวลาที่ฝนกำลังจะตกหรือพึ่งตกไปเนื่องจากน้ำเหล่านี้เมื่อสัมผัสกับสีแล้วเข้ามาผสมกับตัวสีที่ทาส่งผลให้ความเข้มข้นและความเหนียวแน่นของสีหายไปเร็วขึ้น เมื่อสีแห้งโอกาสที่จะหลุดลอกออกไปย่อมง่ายกว่าปกติแน่นอน ดังนั้นช่วงเวลาแนะนำในการทาสีควรเป็นช่วงกลางวันหรือช่วงกลางคืนที่อากาศแห้ง ไม่เย็น จะทำให้สีติดทนนานมากกว่าเดิม ไม่ลอกง่าย
4. มีการป้องกันไม่ให้มีสิ่งใดผ่านไปได้ระหว่างการทา – แม้ว่าการเลือกใช้สีเทอร์โมพลาสติกจะแห้งได้รวดเร็วภายใน 5-10 นาที แต่อย่าลืมว่าเวลาทาเส้นถนนไม่ได้ทาแค่ระยะทางสั้น ๆ บางทีหากเราทาไปเรื่อย ๆ แล้วลืมป้องกันเส้นที่พึ่งทาเสร็จรถที่วิ่งหรือคนอาจเหยียบเอาได้ง่าย ๆ เคล็ดลับตรงนี้เราเลือกใช้ กรวยจราจร มาวางขวางทางเอาไว้หรืออาจเลือกใช้ ป้ายตั้งพื้น หรือ กระบองไฟกระพริบ มาตั้งเสียบไว้ก็ได้ เพื่อให้คนและรถเห็น เมื่อมองเห็นแล้วจะไม่เดินมาเหยียบกับสีที่เราทาเอาไว้ เท่านี้ก็ช่วยให้การทาสีไม่หลุดลอกออกไปก่อนเวลาอันควรแล้ว
5. ทาชั้นสีให้หนาเข้าไว้ในระดับที่เหมาะสม – อีกเคล็ดลับในการทาสีจราจรให้ออกมามีคุณภาพ และไม่หลุดลอกง่าย ๆ นั่นคือ การทาสีให้มีความหนาเข้าไว้ พูดง่าย ๆ คือ ทาชั้นสีทับลงไปให้หนากว่าพื้นถนนจะช่วยให้สียึดเกาะได้ดี ไม่แตกออกจนหลุดหายไป กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าทาจนหนาเกินกลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่วิ่งมาเฉี่ยวล้มเกิดอุบัติเหตุอีก เอาแค่หนาในระดับเหมาะสมเท่านี้ก็เพียงพอในการทำให้สีคงทนได้ยาวนานกว่าปกติแล้ว หากเคยสังเกตจะพบว่าเส้นจราจรของถนนบางเส้นมีการทาสีที่หนาพอเวลารถขับผ่านเหมือนกำลังขับบนทางสะดุดแบบนั้นเลยก็มี
6. มีการทำความสะอาดพื้นที่ที่จะทาก่อนลงสีจริง – การทำความสะอาดพื้นที่ด้วยการกวาดเพื่อให้ฝุ่นต่าง ๆ ออกไปก่อนจะช่วยให้สีที่ทาลงไปยึดติดได้ยาวนานมากกว่าเดิม เพราะฝุ่นละอองเหล่านี้หากไม่มีการทำความสะอาดเลยมันจะเข้าไปผสมอยู่กับเนื้อสี แทนที่สีจะมีความแน่นหนาจากการผสมแบบได้สัดส่วนกลายเป็นว่าสีไม่ยึดเกาะติดกันดังที่ควรจะเป็น สุดท้ายก็เกิดการแตกหรือลอกล่อนออกมาง่ายกว่าเดิม
เคล็ดลับเหล่านี้นับว่าเป็นวิธีง่าย ๆ สำหรับคนที่ต้องการทาสีจราจรให้เกิดความหนาแน่นมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าทาเพียงครั้งเดียวสามารถใช้งานได้ยาวนานไปอีกหลายปี ไม่ต้องมีปัญหามานั่งแก้กันบ่อย ๆ กระนั้นอย่าลืมเรื่องของความปลอดภัยระหว่างการทาสีด้วย เพราะหากไม่มีป้ายแจ้งเตือนอะไรเลยคนที่ใช้รถใช้ถนนประจำโดยเฉพาะเวลากลางคืนอาจไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังมีการตีเส้นจราจรอยู่ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมีสูงมาก
สิ่งที่ ร้านไทยจราจร ได้แนะนำเกี่ยวกับการทาสีถนนเพื่อไม่ให้เกิดการหลุดล่อนออกมานี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เส้นของถนนแตกหรือหลุดล่อนได้เร็วกว่าปกติ เช่น จำนวนการวิ่งของรถที่มีปริมาณมาก, รถบรรทุกแบกของหนักวิ่งทับเส้นประจำ ฯลฯ