ในสังคมไทยอาจพูดได้ว่าเกือบทุกครอบครัวต้องมีผู้สูงอายุอยู่ในความดูแล เนื่องจากลักษณะครอบครัวในเมืองไทยจะเป็นครอบครัวใหญ่ มีการอาศัยอยู่ร่วมกันของคนหลายรุ่น ซึ่ง ร้านไทยจราจร เชื่อว่าเรื่องที่ทำให้หลายครอบครัวเป็นกังวลเหมือน ๆ กันนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านของตัวเองซึ่งลูกหลานอาจคิดว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ แต่หลายครั้งที่ได้ยินว่าผู้สูงวัย ‘ลื่นล้ม’ ตามพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ‘ห้องน้ำ’ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลาและอาจมีคราบลื่น คราบสบู่หรือตะไคร่น้ำ อันเป็นสาเหตุทำให้ผู้สูงอายุเสียการทรงตัวในระหว่างการใช้งานห้องน้ำ อย่างไรก็ตามก็ยังมีพื้นที่บริเวณอื่นของบ้านที่มีความเสี่ยงอันตราย เช่น บันได ทางเดินในบ้าน หรือห้องครัว ผู้ดูแลอาจหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้สูงอายุใช้งานพื้นที่บริเวณนั้นเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอันตราย แต่เพราะผู้สูงอายุทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดชำระล้างร่างกายและขับถ่ายจึงทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ห้องน้ำได้
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผู้สูงอายุลื่นในห้องน้ำนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 ประการ โดยประการแรก คือ ปัญหาด้านสุขภาพของผู้สูงอายุเอง ที่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น อวัยวะและระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายก็มักจะเสื่อมถอย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านมองเห็น การได้ยิน การทรงตัว กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง กระดูกเปราะบางและกระดูกพรุน ส่งผลให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวได้ช้าลงและทรงตัวได้ยากขึ้น นอกจากนั้นการมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ซึ่งโรคเรื้อรังเหล่านี้ยังจำเป็นต้องต้องรับประทานยาหลายชนิดต่อวันและต่อเนื่อง เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิต ยารักษาโรคหัวใจ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยากล่อมประสาท หรือยาขับปัสสาวะ เป็นต้น ซึ่งยาเหล่านี้ยิ่งรับประทานยามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำมากขึ้นเพราะมันส่งผลให้อวัยวะเสื่อมลงเร็วขึ้น
ส่วนประการที่ 2 คือ ปัญหาทางสภาพทางกายภาพของห้องน้ำ ทั้งพื้นที่มีความเปียกชื้นอยู่เกือบตลอดเวลา วัสดุปูพื้นห้องน้ำที่มีความลื่น คราบสกปรกของสบู่ แชมพู ครีมนวดผมที่ติดแน่นบนพื้น ทำให้พื้นลื่น ปัญหาเรื่องแสงสว่างที่ไม่เพียงพอส่งผลให้ผู้สูงอายุมองเห็นสิ่งที่ต่าง ๆ ในห้องน้ำได้ไม่ชัดเจน หรือวางข้าวของระเกะระกะขวางทางทำให้เดินไม่สะดวก รวมถึงไม่มีอุปกรณ์เสริม เช่น ราวจับ หรือ เก้าอี้นั่งอาบน้ำ ที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุใช้งานห้องน้ำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหากผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำอาจก่อให้เกิดความรุนแรงได้หลายระดับ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยผู้สูงอายุอาจมีเพียงแค่มีรอยฟกช้ำตามผิวหนังหรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ล้มกระแทกเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล เพียงแค่ทายาเท่านั้น อาการก็ทุเลาลง แต่หากเป็นการลื่นล้มที่มีความรุนแรงจนถึงขั้นกระดูกแขน ขา สะโพก หรือกระดูกสันหลังหัก อาจส่งผลให้มีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือทุพพลภาพ ซึ่งผู้สูงอายุต้องใช้เวลานานกว่าวัยอื่น ๆ ในการรักษาตัวเพื่อกลับมาเป็นปกติและเดินได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามพบว่า 1 ใน 5 ของผู้สูงอายุที่มีอาการกระดูกหักจากการลื่นล้ม ทำให้ไม่สามารถกลับมาเดินได้อีก ต้องอาศัยรถเข็นในเคลื่อนที่ สูญเสียความสามารถในการดูแลตัวเอง และต้องอยู่ในความดูแลของผู้อื่นตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ในระหว่างการรักษา เช่น แผลกดทับ ปอดบวม การติดเชื้อในระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ผู้สูงอายุเสียชีวิตได้
และสำหรับผลกระทบที่รุนแรงที่สุดของการลื่นล้มในห้องน้ำ คือ การได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดการแตกยุบของกะโหลกศีรษะ สมองบวมช้ำ เลือดออกในสมองหรือใต้เยื่อหุ้มสมอง โดยวิธีการรักษาหลัก ๆ คือการผ่าตัดเพื่อระบายเลือดที่คั่งในสมอง เยื่อหุ้มสมอง หรือลดความดันในสมอง แต่ต้องยอมรับว่าการผ่าตัดสมองอาจทำให้ผู้สูงอายุเสียชีวิตในระหว่างผ่าตัดได้ เนื่องจากมีสภาพของร่างกายและระบบการทำงานต่าง ๆ ไม่สมบูรณ์เหมือนวัยหนุ่มสาว แต่หากการผ่าตัดสำเร็จก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นยาวนานและส่งผลให้มีความปกติกับร่างกายเกิดขึ้นได้ในระยะยาว เช่น การเรียนรู้ การเคลื่อนไหว พฤติกรรม การสื่อสารกับคนรอบข้าง ความทรงจำ ดังนั้นหากพบว่าผู้สูงอายุมีอาการหมดสติ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ตาพร่ามัวมองเห็นไม่ชัดเจน มีอาการชาอ่อนแรงตามแขนขา และมีอาเจียนอย่างรุนแรง โดยอาจเกิดขึ้นในทันทีหรือภายใน 72 ชั่วโมง ให้รีบนำตัวผู้สูงอายุเข้ารับการักษาตัวในโรงพยาบาลทันที เพื่อช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
จะเห็นได้ว่าการลื่นล้มในห้องน้ำนั้นก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้สูงอายุทั้งการบาดเจ็บตามร่างกายและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนั้นยังอาจส่งผลในระยะยาวต่อการใช้ชีวิตประจำวันและสภาพจิตใจของผู้สูงอายุด้วย โดยทำให้ขาดความมั่นใจในการเคลื่อนไหว หรือหากมีกรณีทุพพลภาพสูญเสียอวัยวะ ก็จะทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติหรือเข้าร่วมกิจกรรมกับคนวัยเดียวกันได้ ส่งผลให้เกิดความเครียดจนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับผู้สูงอายุ ร้านไทยจราจร แนะนำว่าผู้สูงอายุควรหมั่นออกกำลังกายเบา ๆ เป็นประจำ เช่น ย่ำเท้าอยู่กับที่ รำไทเก๊ก การแกว่งแขน โยคะ เพื่อฝึกการทรงตัวและช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้น และควรออกแบบห้องน้ำให้มีความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำ