ผู้นำด้านอุปกรณ์จราจร ที่ทันสมัย และครบวงจร มากที่สุด ในประเทศไทย!!

ด่วน!! ทางเรามีบริการดูหน้างานเพื่อตรวจสอบหรือวัดขนาดพร้อมให้คำปรึกษา ฟรี...คลิ๊กเลย!!

10 วิธีทำอย่างไร...เมื่อรถเบรกแตก!?

Placeholder image

 

     

     ในการขับรถยนต์เพื่อเดินทางไปในที่ใด ๆ ก็ตาม สิ่งที่คุณควรที่จะคำนึงถึงเสมอ นั่นคือ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแม้ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นเราควรจะต้องตั้งสติก่อนสตาร์ทรถยนต์ทุกครั้ง เราควรที่จะทำการตรวจสอบสภาพรถยนต์ของเราให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดีอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งเรื่องไม่คาดฝันก็อาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของเราได้ทุกเมื่อ
ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่รถยนต์เกิดมีอาการเบรกแตกขึ้นมาในขณะที่ขับอยู่ “เบรกแตก” คือ อาการที่เราเหยียบแป้นเบรกจนจมสุดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเบรกรถยนต์ได้หรือสามารถชะลอความเร็วของรถยนต์ได้ ทำให้อาจเกิดเหตุรถชนหรือเสียการทรงตัวได้ถ้าไม่รู้วิธีควบคุมรถอย่างชำนาญ
หากเป็นอย่างนี้แล้ว เราจะควรจะทำอย่างไรดีเพื่อจะควบคุมรถยนต์ให้สามารถประคับประคองและจอดรถได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดอุบัติเหตุได้ วันนี้ทางร้านไทยจราจร จึงขอแนะนำถึง 10 วิธีทำอย่างไร…เมื่อรถเบรกแตก ที่เราทุกคนสามารถที่จะปฏิบัติตามได้ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้เราทำดังต่อไปนี้
     1. ตั้งสติและจับพวงมาลัยให้มั่น
จงจำไว้ว่าหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำ นั่นคือ การตั้งสติและพยายามที่ควบคุมตัวเองให้ได้ก่อน แม้ว่ารถยนต์ของคุณอาจจะควบคุมไม่ได้ หากรถยนต์เกิดอาการเบรกแตก คุณต้องตั้งสติให้ได้และสิ่งที่สำคัญ คือ การจับพวงมาลัยรถให้มั่น อย่าปล่อยมือออกจากพวงมาลัยรถเด็ดขาด! เพราะคุณจะไม่สามารถควบคุมรถได้และจะเกิดอันตรายอย่างมาก
     2. เปิดไฟฉุกเฉิน
การเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อบอกให้รถยนต์ที่คันหลังที่ขับตามมาได้ทราบว่ารถยนต์ของคุณเกิดปัญหาเพื่อรถยนต์คันหลังที่ขับตามมาเว้นระยะห่างจากรถยนต์ของคุณ
     3. ลดความเร็วลง
สิ่งต่อมาที่คุณควรจะทำคือการพยายามค่อย ๆ ลดความเร็วของรถยนต์ของคุณโดยเร็วที่สุด โดยการถอนเท้าของคุณออกจากคันเร่ง
     4. เปลี่ยนเกียร์ลดลง
เมื่อลดความเร็วรถยนต์แล้ว คุณต้องเปลี่ยนเกียร์ลง หากรถยนต์ของคุณเป็นรถเกียร์ธรรมดาให้คุณเหยียบคลัตช์แล้วเปลี่ยนเกียร์ลงมาเรื่อย ๆ ตามลำดับ หากรถยนต์ของคุณเป็นรถเกียร์ออโต้ หากมีปุ่ม Over Drive ก็ให้กดปุ่มนี้แล้วเปลี่ยนจากเกียร์ D เป็น 3 แล้วค่อย ๆ ลดลงมาเรื่อย ๆ และสิ่งที่สำคัญ คือห้ามเปลี่ยนมาเป็น L เพราะจะทำให้รถยนต์เสียหลักได้ แต่หากรถของคุณไม่มีเกียร์ D2 D3 ให้ใช้เป็น S หรือ M แทน แล้วลดเกียร์ลง
     5. ใช้เบรกมือ
เมื่อชะลอความเร็วได้แล้ว ลองใช้เบรกมือเพื่อให้ช่วยลดความเร็วที่ล้อหลัง ซึ่งจะสามารถช่วยหน่วงและชะลอได้ แต่ระวังอย่าดึงแรงในทีเดียว แต่ให้ค่อย ๆ ดึงขึ้น จนสุด ก็จะช่วยลดความเร็วได้
     6. ห้ามดับเครื่องยนต์โดยทันที
สิ่งสำคัญที่ห้ามทำคือการบิดกุญแจรถเพื่อดับเครื่องยนต์โดยทันทีเพราะจะทำให้พวงมาลัยล็อคและบังคับทิศทางไม่ได้
     7. พยายามขับรถยนต์ให้ชิดทางซ้ายมือเพื่อจะจอดข้างทาง
คุณควรที่จะตั้งสติและควบคุมรถยนต์ของคุณให้ชิดทางซ้ายมือไว้ เพื่อหาที่เหมาะสมที่จะจอดรถยนต์ และเป็นการป้องกันอุบัติเหตุได้ เพราะหากรถยนต์ของคุณอยู่ทางขวามือ อาจจะมีรถยนต์ที่ขับสวนทางหรือรถยนต์ที่ขับแซงมาชนรถยนต์ของคุณได้
     8. เมื่อชะลอความเร็วได้แล้วหาที่ปลอดภัยเพื่อจอดรถ
เมื่อชะลอความเร็วได้แล้ว ให้คุณมองหาที่ปลอดภัยเพื่อจะจอดรถ หากความเร็วไม่ลดลงเลย และมีเหตุที่จะต้องชนก็ต้องเลือกชนในส่วนด้านข้างของรถยนต์เพื่อเป็นอันตรายน้อยที่สุดเพื่อที่จะหยุดรถยนต์ของคุณให้ได้
     9. จอดรถในสถานที่ปลอดภัย
การหาสถานที่จอดรถยนต์ คุณควรจะเลือกที่จอดที่ปลอดภัย ไม่ควรจอดในบริเวณไหล่ทาง โดยเฉพาะทางโค้ง เพราะรถยนต์ที่ขับตามหลังมาอาจจะชนท้ายรถยนต์ของคุณได้ ควรเลือกที่จอดที่ห่างจากถนนให้พอสมควร
     10. ตรวจสอบสภาพรถยนต์ของคุณ
เมื่อคุณสามารถจอดรถยนต์ของคุณได้ให้ตรวจสอบสภาพรถยนต์ของคุณว่ามีส่วนใดเสียหายบ้าง และส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งคุณควรที่จะมีติดรถยนต์ของคุณไว้ในยามฉุกเฉิน เช่น หากรถยนต์ของคุณมี กรวยจราจร สีส้มก็หยิบออกมาตั้งป้องกันรถยนต์ที่อาจจะขับตามมาชนท้ายซ้ำซ้อนได้ หากมี กระบองไฟกระพริบ ให้หยิบมาโบกเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านมา ติดต่อเพื่อนที่คุณรู้จักหรือติดต่อรถยกเพื่อมาช่วยยกรถยนต์ของคุณไปเข้าอู่ซ่อมต่อไป
     นี่คือ 10 วิธีทำอย่างไร...เมื่อรถเบรกแตกที่ ร้านไทยจราจร นำมาแบ่งปันเพื่อเป็นข้อคิดหากเกิดเหตุในยามฉุกเฉิน แต่ทางที่ดีแล้วเราควรที่จะป้องกันไว้ดีกว่าต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้น
วิธีป้องกันรถยนต์ของคุณจากการเบรกแตก นั่นคือ คุณควรที่จะตรวจสอบระบบเบรกให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยให้ช่างยนต์เช็คความสึกหรอผ้าเบรกและจานเบรกเสมอ หากมีการสึกหรอมากก็ควรที่จะเปลี่ยน และคุณควรที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกปีละ 1 ครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งาน เพราะระบบเบรกเป็นส่วนที่สำคัญในการขับรถยนต์ ก่อนที่จะขับรถยนต์ออกไปไหนก็ควรทดสอบเบรกก่อนว่าใช้ได้ดีหรือไม่
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณได้ ขอให้ขับรถยนต์ด้วยสติและเดินทางโดยสวัสดิภาพ ด้วยความปรารถนาดีจาก ร้านไทยจราจร ผู้จำหน่าย กรวยจราจร และ อุปกรณ์จราจร ที่ครบครันทุกประเภท


white_paper