เวลาที่คุณขับรถออกไปตามถนนเส้นต่าง ๆ โดยเฉพาะถนนที่พาดออกไปแถวนอกเมือง เส้นผ่านเขา คุณคงจะเคยเห็นว่ามีการตรวจจับความเร็ว รวมถึงมีการตั้งป้ายจราจรจำกัดความเร็วด้วย ซึ่งคุณคงจะคุ้นเคยกันดีในรูปของป้ายวงกลมที่มีขอบสีแดง มีพื้นด้านในสีขาว มีตัวเลขระบุความเร็วอย่าง 30 40 50 อยู่บนป้าย หรือบนถนนบางสายที่ต้องจำกัดความเร็วโดยแยกตามประเภทรถ ก็จะมีป้ายขนาดใหญ่ไว้ใช้สำหรับแยกประเภทรถออกเป็นรถบรรทุก รถยนต์ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ พร้อมทั้งระบุด้วยว่ารถแต่ละชนิดที่จะวิ่งบนท้องถนนนี้ จะต้องใช้ความเร็วเท่าไร หากใครฝ่าฝืน จะมีโทษคือต้องเสียค่าปรับ
เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะมองว่าการตรวจจับความเร็วของตำรวจเป็นเรื่องที่ไร้สาระ บางคนคิดไปถึงขั้นว่าตำรวจกำลังหลอกกินเงินของคุณ แต่รู้หรือไม่ว่าอันที่จริงแล้ว การจำกัดความเร็ว คือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการใช้รถใช้ถนน แต่จะสำคัญอย่างไร วันนี้ร้านไทยจราจรจะพาคุณไปดูกัน
1. การจำกัดความเร็วบนท้องถนน จะช่วยให้อุบัติเหตุลดน้อยลง ลองคิดดูว่าถ้าหากถนนเส้นใดไม่มีการจำกัดความเร็วเลย รถทุกคันพากันเหยียบไป 80-110 กันทั้งนั้น หากขับอยู่ดี ๆ เกิดไปเจอโค้ง หรือกำแพงขวางทางเข้า ลองคิดดูว่ารถที่กำลังเหยียบมา 80-110 คันนั้นจะสามารถหยุดรถได้ทันไหม ตรงนี้บอกได้เลยว่าไม่มีทางทันแน่นอน ต่อให้คุณเหยียบเบรกลงไปจนสุด ก็ไม่มีทางหยุดรถได้ และยิ่งถ้าคุณเหยียบเบรกมากเท่าไร สถานการณ์ก็จะยิ่งเลวร้ายขึ้น เพราะจะมีแรงมหาศาลมากระทำต่อตัวรถ จนทำให้รถหมุน สุดท้ายก็พลิกคว่ำไปในที่สุด แต่ถ้าถนนเส้นนั้นมีการจำกัดความเร็ว รถทุกคันก็จะขับกันด้วยความเร็วที่พอเหมาะ ไม่เร็วไปหรือช้าไป เมื่อเกิดสถานการณ์คับขันขึ้นตรงหน้า รถทุกคันก็จะสามารถหยุดรถเพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน เห็นไหมว่าการจำกัดความเร็ว เป็นเรื่องที่สำคัญมากจริง ๆ
2. การจำกัดความเร็วบนท้องถนน จะช่วยให้ความเสี่ยงของการเกิดอุบัติบนเส้นทางอันตรายลดลงได้มาก ซึ่งเส้นทางอันตรายก็อย่างเช่น ถนนที่ตัดผ่านหน้าผา ถนนที่มีลักษณะเป็นทางขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่สม่ำเสมอ หรือถนนที่มีโค้งหักศอกมากมาย เป็นต้น ถ้าหากว่าไม่มีการจำกัดความเร็วบนท้องถนนที่อยู่ในลักษณะนี้ รถยนต์ที่ขับผ่านไปผ่านมาโดยไม่ชำนาญเส้นทาง หรือชำนาญอยู่แล้วแต่ติดว่าขับรถเร็ว ก็มีสิทธิ์ตกถนนลงไปอยู่ข้างทาง เป็นอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างง่าย ๆ ดังนั้น การจำกัดและตรวจจับความเร็ว จึงช่วยป้องกันอุบัติเหตุในส่วนนี้ได้
3. การจำกัดความเร็ว จะช่วยให้รถแต่ละชนิด แต่ละคัน รู้ตัวเองว่าต้องขับรถเร็วแค่ไหน แล้วก็ขับอย่างระมัดระวังกัน ลองคิดดูว่าถ้าปล่อยให้รถพ่วง รถบรรทุกคันใหญ่ ๆ มาขับซิ่งบนถนนเสมือนว่าตัวเองเป็นรถเฟอร์รารี่ ก็คงจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร จริงไหม ยิ่งรถจักรยานยนต์ที่คันเล็ก ๆ ระวังลำบาก ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการจะขับมาชนเรา หรือเราขับไปชนเขาเข้าไปใหญ่ การจำกัดความเร็ว จะช่วยป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ได้ บนถนนบางเส้นที่มีความกว้างมาก ๆ หรือมีภูมิประเทศค่อนข้างอันตราย บางครั้งจะมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วไว้ใช้งานคู่กับป้ายจราจรด้วย ถ้ารถบรรทุก รถเก๋ง หรือรถจักรยานยนต์ขับเร็วเกินกำหนด ก็จะถูกจับปรับทันที มีเอกสารแจ้งถึงบ้านแน่นอน
4. การจำกัดความเร็ว จะช่วยลดความหวาดเสียวในการใช้ถนนเส้นนั้นลง การขับรถไปตามท้องถนนนั้น ไม่ใช่การนั่งรถไฟเหาะตีลังกาในสวนสนุกแต่อย่างใด ที่ยิ่งเสียวก็ยิ่งดี ลองคิดดูว่าถ้าหากคุณจำต้องนั่งไปในรถคันหนึ่งที่ขับเร็วมาก ๆ ขนาดรถไฟเหาะยังต้องยอมแพ้ คุณจะรู้สึกสนุก หรือคุณจะรู้สึกกลัวจนต้องนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วกันแน่ และเมื่อคุณถึงที่หมายจนลงจากรถได้ คุณก็คงไม่อยากจะกลับไปนั่งรถคันนั้นอีกแน่นอน การจำกัดความเร็วบนท้องถนน จะช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ นอกจากคุณจะไม่ต้องรู้สึกหวาดเสียวแล้ว ยังเพิ่มความรู้สึกอุ่นใจตลอดการเดินทางอีกด้วย
5. การจำกัดความเร็ว จะช่วยให้การจัดระเบียบจราจรทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากว่ารถทุกคันบนถนนเส้นนั้นพากันขับเร็วหมด คุณตำรวจก็จะจัดระเบียบการจราจรบนถนนเส้นนั้นได้ยาก ส่งผลให้การควบคุมผู้ใช้ถนนให้ทำตามกฎจราจรยิ่งยากเข้าไปกันใหญ่ นอกจากนี้ ถ้าไม่มีการจำกัดความเร็วเลย คุณตำรวจก็คงต้องปวดหัว กับการต้องรับเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดบนถนนเส้นนั้นไม่เว้นแต่ละวัน การจำกัดความเร็ว จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่คุณตำรวจต้องบังคับใช้บนท้องถนนให้เข้มงวด เพื่อให้ถนนเส้นที่รับผิดชอบอยู่มีความเรียบร้อยยิ่งขึ้น
จากเหตุผลทั้ง 5 ข้อนี้ คุณคงพอจะเห็นแล้วว่าทำไมจึงต้องมีการจำกัดความเร็วบนท้องถนน เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าคุณขับรถไปบนถนนเส้นใด ขออย่าได้รำคาญการตรวจจับความเร็ว หรือป้ายจราจรเตือนจำกัดความเร็วเลย เพราะสิ่งนี้ จะเป็นตัวช่วยให้คุณปลอดภัยในขณะที่ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น ร้านไทยจราจร ขอให้คุณจงให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ อย่าได้นิ่งนอนใจหรือประมาท
