ผู้นำด้านอุปกรณ์จราจร ที่ทันสมัย และครบวงจร มากที่สุด ในประเทศไทย!!

ด่วน!! ทางเรามีบริการดูหน้างานเพื่อตรวจสอบหรือวัดขนาดพร้อมให้คำปรึกษา ฟรี...คลิ๊กเลย!!

จะติดตั้งป้ายจราจรในสถานที่ ต้องรู้อะไรบ้าง?

Placeholder image

 

     

           
       เมื่อพูดถึงป้ายจราจร คุณคงจะคิดว่าเป็นป้ายที่ใช้กับถนนใหญ่เป็นหลัก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ป้ายประเภทคำสั่งหรือป้ายห้าม กับป้ายประเภทเตือน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากป้ายจราจรจะสามารถใช้กับถนนใหญ่ได้แล้ว ยังสามารถใช้กับในอาคารได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาคารจอดรถที่มีรถเข้าออกกันเยอะ ยิ่งต้องมีป้ายจราจรไว้ใช้ช่วยจัดระเบียบให้การจราจรในอาคารเรียบร้อย ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นตามมา

                    อย่างไรก็ตาม ในการติดตั้งป้ายจราจรในอาคารสถานที่ของคุณนั้น ไม่ใช่ว่าแค่ซื้อป้ายจราจรมาตามที่ต้องการแล้วก็ติดตั้ง เป็นอันเสร็จ เพราะถ้าคุณติดตั้งป้ายจราจรอย่างไม่ถูกต้อง แทนที่การจราจรภายในอาคารจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย ก็อาจจะกลายเป็นว่าเกิดความสับสนวุ่นวาย จนในที่สุดก็เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ดังนั้นในบทความนี้ ร้านไทยจราจรจะขอพาคุณไปดูกันว่า เมื่อต้องการติดตั้งป้ายจราจรในอาคารสถานที่ของคุณ ต้องรู้อะไรบ้าง

                    เริ่มจากอย่างแรก คุณต้องรู้กันก่อนว่าป้ายแต่ละชนิดใช้งานต่างกันอย่างไร หลัก ๆ ก็เช่นป้ายคำสั่ง จะให้ความหมายที่แตกต่างจากป้ายประเภทเตือนอยู่พอสมควร ถ้าคุณต้องการจัดการจราจรให้เรียบร้อย ให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎการเดินรถ คุณก็ต้องใช้ป้ายประเภทป้ายคำสั่ง เช่น ให้เลี้ยวซ้าย ให้เลี้ยวขวา ห้ามกลับรถ เป็นต้น แต่ถ้าคุณต้องการแค่เตือนจุดอันตรายต่าง ๆ ภายในอาคาร เช่น ทางโค้ง ทางลื่น ระวังคนข้ามถนน เป็นต้น คุณก็ต้องเลือกใช้ป้ายชนิดป้ายเตือน จะนำป้ายคำสั่งมาใช้แทนป้ายเตือน หรือนำป้ายเตือนไปใช้แทนป้ายคำสั่งไม่ได้ เพราะถึงแม้ป้ายบางป้ายจะมีรูปลักษณ์คล้ายกัน มีความหมายคล้ายกัน แต่ถ้าคุณใช้สลับกัน ก็อาจทำให้ผู้ขับขี่รถคนอื่น ๆ เกิดความสับสนได้ โดยเฉพาะในจุดคับขัน ยิ่งต้องเลือกใช้ป้ายให้ถูกต้องที่สุด เพื่อไม่ให้มีอุบัติเหตุใด ๆ ตามมา

                    ข้อต่อมา คือ คุณต้องรู้จักติดตั้งป้ายจราจรให้มีความเหมาะสม ถูกต้องตามจุด มีการเว้นระยะห่างกันพอสมควร และไม่ควรนำป้ายบางชนิดไปติดตั้งในบางจุด ยกตัวอย่างเช่นป้ายหยุด ดูเผิน ๆ ป้ายนี้ก็มีความหมายทั่วไปว่าให้รถหยุด ก็น่าจะใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาใช่ไหม แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณไม่ควรนำป้ายหยุดนี้ไปติดตั้งที่ทางแยกภายในอาคาร เนื่องจากตัวป้ายค่อนข้างมีความหมายเจาะจงว่าให้หยุด หากนำไปติดตั้งตามทางแยก ผู้ขับขี่รถคนอื่น ๆ ก็จะเกิดความสับสนกับป้ายนั้น ว่าตกลงจะให้หยุดแค่ชั่วคราวแล้วผ่านได้ หรือให้หยุดอยู่ตรงนั้น ห้ามผ่านไปอีก เกิดการตีความออกเป็นหลายความหมาย และเมื่อผู้ขับขี่แต่ละคนเข้าใจไม่ตรงกัน ก็มีสิทธิก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ดังนั้นสำหรับทางแยก คุณควรใช้ป้ายอื่นที่ให้ความหมายชัดเจนกว่า อย่างเช่นจำกัดความเร็ว ลดความเร็ว จะช่วยให้รถแต่ละคันรู้ตัวได้มากกว่าว่าตนเองต้องทำอย่างไรเมื่อผ่านทางแยกนั้น เป็นต้น ป้ายอื่น ๆ ก็เช่นกัน สรุปได้ว่า เมื่อคุณต้องการจะติดตั้งป้ายจราจร คุณควรวิเคราะห์จุดสำคัญภายในอาคารของคุณก่อน ว่าเหมาะสมกับการใช้งานป้ายชนิดใด แล้วก็เลือกใช้ป้ายที่ให้ความหมายไม่กำกวม เมื่อผู้ขับขี่แต่ละคนได้เห็น ก็เข้าใจความหมายไปในทิศทางเดียวกัน อุบัติเหตุก็จะไม่เกิดขึ้น

                    ข้อควรรู้อีกอย่างหนึ่งสำหรับการติดตั้งป้ายจราจรในอาคาร ก็คือ คุณควรทราบว่าป้ายจราจรที่ผลิตออกมาในปัจจุบันนั้นมีทั้งป้ายธรรมดาและป้ายที่มีสัญญาณไฟกระพริบในตัวเอง เจ้าของอาคารบางคนไม่รู้ว่าป้ายทั้ง 2 นี้มีความสำคัญแตกต่างกันอย่างไร บางคนเลือกที่จะประหยัดงบ จัดซื้อป้ายจราจรชนิดธรรมดามาติดตั้งในอาคารที่ค่อนข้างมืด แสงเข้าน้อย ผลก็คือรถยนต์ที่เข้ามาในอาคารมองไม่เห็นป้าย เกิดการขับรถผิดทางบ้าง เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น หรือชนกับป้ายจราจรบ้าง นอกจากนี้ ยังมีเจ้าของอาคารบางคนที่เลือกป้ายแบบมีไฟกระพริบมาใช้งาน ทั้งที่อาคารของตนมีแสงสว่างเข้าเต็มที่จนบางทีแทบไม่ต้องเปิดไฟ ถึงแม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายอะไรก็จริง แต่ก็ทำให้สูญเสียงบประมาณ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์ไปมากโดยใช่เหตุ เพราะฉะนั้น ก่อนจะตัดสินใจจัดซื้อป้ายจราจรชนิดใดก็ตาม คุณเจ้าของอาคาร ควรจะประเมินลักษณะในอาคารของตนเองก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ป้ายจราจรที่คุณจัดซื้อมาติดตั้งสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

                    ข้อควรรู้ประการสุดท้ายที่ร้านไทยจราจรจะขอหยิบยกมาให้คุณได้รู้กัน คือ การบริหารจัดการจราจรให้มีประสิทธิภาพนั้น ไม่ใช่ว่ามีแค่ป้ายจราจรอย่างเดียวก็จบ เนื่องจากป้ายจราจรเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยแค่ออกคำสั่ง หรือเตือนผู้ขับขี่รถในอาคารเท่านั้น ไม่สามารถควบคุมให้ผู้ขับขี่รถปฏิบัติตามได้ 100% ดังนั้นหากคุณต้องการให้การบริหารจัดการจราจรในอาคารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คุณต้องจัดซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ มาใช้งานร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจจับความเร็ว กรวยจราจร แผงกั้นจราจร ยางชะลอความเร็ว รวมไปถึงที่บังคับเดินรถทางเดียว หากคุณนำอุปกรณ์เหล่านี้มาประยุกต์ร่วมกับป้ายจราจรด้วยแล้ว รับรองว่าการจัดการจราจรในอาคารของคุณจะทำได้ง่ายขึ้น ไม่มีปัญหาอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากผู้ขับขี่รถยนต์ฝ่าฝืนคำสั่ง หรือไม่เชื่อคำเตือนบนป้ายอย่างแน่นอน

                    ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็คือ สิ่งที่เจ้าของอาคารควรรู้ เมื่อจะติดตั้งป้ายจราจรในอาคาร หวังว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบ คุณผู้อ่านทุกคนจะมีความรู้เกี่ยวกับป้ายจราจรในอาคารขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย








white_paper