การขับรถเป็นหนึ่งกิจวัตรของคนวัยเรียนและวัยทำงาน ที่มีโอกาสประสบอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นผู้ขับขี่รถมือใหม่ที่ด้อยประสบการณ์ ก็ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์เกิดอุบัติภัยบนท้องถนนง่ายขึ้นด้วย ในวันนี้ ร้านไทยจราจร จึงได้รวบรวม 8 วิธีการที่ช่วยให้ลูกของคุณขับรถได้อย่างปลอดภัยมาฝาก โดยเฉพาะข้อสี่ที่ห้ามพลาด ดังนี้
1. การเตรียมความพร้อมของเครื่องยนต์และตัวรถเป็นสิ่งสำคัญ ในทุกวันก่อนออกเดินทาง คุณพ่อคุณแม่ควรเตือนให้ลูกเช็คระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำกลั่น ที่ต้องไม่ต่ำกว่าขีด minimum ที่กำหนด ป้องกันเครื่องยนต์หรือหม้อน้ำเสียหาย นอกจากนี้ ยังต้องเช็คความสมบูรณ์ของไฟหน้า ไฟท้าย ว่าส่องสว่างเป็นปกติหรือไม่ ยางรถมีอาการนิ่ม ลมยางอ่อนกว่าที่ควรเป็นหรือเปล่า ซึ่งโดยปกติรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปควรมีค่าแรงดันลมยาง ที่ 25 - 30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และมีดอกยางที่สมบูรณ์เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดี ไร้ปัญหาเบรกไม่อยู่ แม้ว่าในถนนหลายสายจะมีการติดตั้ง ยางชะลอความเร็ว หรือยางปูพื้นกันลื่น เพื่อลดเร็วรถยนต์แล้ว แต่หากสภาพยางรถไม่พร้อมใช้งาน ก็เสี่ยงลื่นไถลได้ง่าย
2. การพกอุปกรณ์นิรภัยที่จำเป็นและอุปกรณ์งานช่างพื้นฐานไว้ท้ายรถ มีประโยชน์ในแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในระหว่างการขับขี่ เช่น เครื่องวัดเกจลมยาง แม่แรง กากบาทถอดล้อ สายพ่วงแบตเตอรี่ น้ำเปล่า (สำหรับเติมน้ำกลั่น) สปอตไลท์ไฟฉาย (สำหรับส่องหาจุดผิดปกติ และจำเป็นต้องใช้ส่องสว่างยามกลางคืน) ที่สำคัญ ควรมี กรวยจราจรพับได้ แบบสะท้อนแสง สำหรับการวางไว้ห่างจากท้ายรถ 100 เมตร เพื่อเป็นจุดสังเกตป้องกันไม่ให้รถคันอื่น ๆ มาชนท้าย หากมีความจำเป็นต้องจอดรถยนต์ริมไหล่ทาง
3. หากสภาพร่างกายมีความอ่อนเพลียสะสมจากการทำงาน เล่นกีฬา เช่น ปัจจุบันมีความนิยมขับรถเพื่อไปวิ่งมาราธอนหรือไตรกีฬาต่างจังหวัด ทำให้มีอาการอ่อนเพลียในขากลับ จึงควรวางแผนพักผ่อนก่อนกลับด้วย รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเป็นระยะทางไกลต่อเนื่องหลายชั่วโมง ควรแนะนำลูกว่า ถ้าร่างกายอ่อนล้าก็ไม่ควรขับรถเด็ดขาด เพราะจะเสี่ยงต่ออาการหลับในและมีการตัดสินใจที่ล่าช้ากว่าปกติ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตว่าหากลูกมีนัยน์ตาแดงคล้ายคนอดนอน ตาพร่า ไม่สู้แสง หรือ อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดง่าย เหม่อลอย สมาธิสั้น ควรกำชับให้นอนหลับให้เต็มอิ่มก่อนค่อยเดินทาง ทั้งนี้ หากอยู่ในช่วงเทศกาล จะมีด่านตรวจจราจร ซึ่งสังเกตได้จากป้ายไฟหยุดตรวจ ลูกควรจอดรถหลับในบริเวณด่านตรวจเพื่อความปลอดภัยและอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่จราจรด้วย
4. เทคนิคการขับรถในเส้นทางพิเศษ เช่น ทางลาดชันของภูเขาภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างปีใหม่ วันสงกรานต์ ลูกควรรู้ว่าในขาลงเขา ไม่ควรขับเกียร์ว่าง ต้องใช้เกียร์ต่ำ และพยายามขับชิดเลนทางซ้าย เพื่อเลี่ยงให้รถที่ใช้ความเร็วสูงกว่าผ่านไปได้ โดยไม่รู้สึกเครียดหรือกดดันมาก ที่ขาดไม่ได้คือ การบีบแตร ส่งสัญญาณให้รถที่สวนทางในจุดเลี้ยวหักศอกหรือทางแคบทราบว่ามีรถวิ่งอยู่ในบริเวณนี้ด้วย
5. การขับขี่ช่วงฝนตกควรลดความเร็วโดยอัตโนมัติ แม้ไม่มี ป้ายจำกัดความเร็ว หรือป้ายจราจร เตือน แต่ก็ควรรู้ว่าอุบัติเหตุเกิดได้ง่ายเมื่อมีการใช้ความเร็วสูงและการขับรถชิดกับรถคันหน้ามากเกินไป นอกจากนี้ หากรถยนต์มีอาการลื่นไถล ควรแนะนำให้ลูกไม่เหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เพราะจะทำให้ล้อล็อกหรือรถหมุนจนสูญเสียการควบคุมได้ สำหรับอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในเวลาฝนตก ก็ควรเช็คให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ได้แก่ ที่ปัดน้ำฝน ความสูงของระดับน้ำที่ใช้ฉีดกระจก และเสื้อจราจรสะท้อนแสง สำหรับการสวมใส่ทับเสื้อผ้าปกติ เพื่อเป็นจุดสังเกตป้องกันรถคันอื่นมาชนซ้ำซ้อน
6. ก่อนการขับรถทุกครั้ง ลูกควรเช็คระดับกระจกส่องหลัง รวมถึงบานพับซ้ายขวาให้มีวิสัยทัศน์การมองเห็นที่ดีที่สุด ปรับเบาะและคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยก่อนการขับขี่ ถ้า เป็นไปได้ควรกำชับให้ลูกแตะเบรกทดสอบในระยะวิ่งสัก 10 เมตร เพื่อเช็คว่าสายเบรกและจานเบรกทำงานปกติ ไม่มีปัญหาหนูกัดสายอุปกรณ์แน่นอน
7. การขับขี่ในระหว่างมึนเมา นอกจากเป็นความเสี่ยงต่อตัวลูกเองแล้ว ยังเป็นปัญหาสังคมที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องกำชับ “การเมาแล้วขับ” ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ ควรจอดรถในที่ร้านแล้วนั่งรถสาธารณะกลับบ้านแทนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
8. ลูกต้องไม่ประมาทแม้เสี้ยวนาทีหรือทำพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนกฎจราจร การเปิดไฟเลี้ยวเป็นสัญญาณแก่รถคันอื่นก่อนการเลี้ยวรถ การเปิดไฟฉุกเฉินในสถานที่จำเป็น การขับเร็ววิ่งขวา ขับช้าวิ่งเลนซ้าย ฯลฯ ยังเป็นสิ่งที่ลูกต้องยึดมั่น ไม่ประมาทและไม่ปล่อยให้ความคึกคะนองนำหน้าเหตุผล รวมถึงการมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมถนน จะทำให้การขับขี่ของลูกปลอดภัย ตลอดเส้นทางอย่างแน่นอน
การกำชับในประเด็นต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้ง 8 ข้อ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจและเตือนลูกเสมอว่าไม่ให้ประมาท เพื่อการขับรถทุกครั้งจะสามารถมั่นใจได้ว่าลูกจะเดินทางโดยสวัสดิภาพ ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากความประมาทไปได้มาก และหากท่านต้องการอุปกรณ์จราจรเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้ลูกในการขับขี่รถยนต์ เชิญชมสินค้าของร้านเราได้ที่ www.trafficthai.com ร้านไทยจราจร ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง