แม้การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจะถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะกับประเทศที่มีจำนวนประชากรใช้รถใช้ถนนมาก ๆ ทว่าความน่าตกใจที่เกิดขึ้นคือมีรายงานระบุชัดเจนเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยว่า มีผู้เสียชีวิตจากสิ่งนี้เฉลี่ยทุก ๆ ชั่วโมง! จากพลเมืองประชากรกว่า 70 ล้านคน นั่นหมายความว่าตลอด 24 ชั่วโมงใน 1 วัน เมืองไทยของเราจะต้องมีคนเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุแน่ ๆ จนมีหลายคนตั้งคำถามขึ้นมาว่าอย่างนี้ถ้าลองไปเทียบกับประเทศอื่น จะเป็นอย่างไร ร้านไทยจราจร จะขอบอกเล่าเรื่องอันน่าตกใจเกี่ยวกับสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนให้ได้เข้าใจกัน
      อย่างไรก็ตามแม้จะถูกระบุว่าการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยทำให้มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยทุกชั่วโมงก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างตรงที่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรวมถึงจำนวนประชากรที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเรื่องดังกล่าวลดลงถึง 1 ใน 3 ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทว่าในข่าวดีก็มักมีข่าวร้ายแทรกมาด้วยเสมอนั่นคือ ความน่าจะเป็นของบุคคลที่จะได้รับอุบัติเหตุจนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตมีแนวโน้มสูงมากขึ้น ยิ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ จะยิ่งพบว่าประเทศไทยของเรามีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนสูงมากที่สุดแห่งหนึ่ง
      เมื่อตอนปี 2013 ได้ทำการระบุเอาไว้เลยว่าประเทศไทยมีประชากรต่อปี 38 คน จาก 100,000 คนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก 2 ประเทศในทวีปแอฟริกานั่นคือ เอริเทรีย ที่มีอัตราเฉลี่ย 48.4 คน และประเทศลิเบียอยู่ที่ 40.5 คน ขณะเดียวกันเมื่อมาเทียบกับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันก็พบว่าทุกประเทศมีอัตราเสียชีวิตด้วยสาเหตุดังกล่าวน้อยกว่าบ้านเราเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซียกับเวียดนามที่มีประชากรเสียชีวิต 25 คน ต่อประชากร 100,000 คน, ประเทศลาว 20 คน, อินโดนีเซีย 18 คน, กัมพูชา 17 คน, เมียนมาร์ 15 คน, ฟิลิปปินส์ 9 คน และสิงคโปร์มีแค่ 5 คนเท่านั้น โดยอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตผู้คนบนท้องถนนของเมืองไทยมากที่สุดคืออุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ มีสถิติอย่างเป็นทางการอันบ่งชี้ให้เห็นว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น 70% มาจากเรื่องนี้
      หากลองเทียบกันเล่น ๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิตบนท้องถนนของประเทศไทยจะพบว่ามีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 26,000 รายต่อปี ขณะที่ยังมีอีกเป็นร้อยเป็นพันคนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร จากสถิติตรงนี้ทำให้พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนของบ้านเราเทียบได้กับประเทศที่มีสงครามในระดับปานกลางเลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้ชายอายุระหว่าง 15-24 ปี อันถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลสำคัญที่ช่วยในเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มอื่น ทั้งนี้ผู้ชายมีโอกาสประสบอุบัติเหตุร้ายแรงมากกว่าผู้หญิงถึง 4 เท่า
      ขนาดว่าในบ้านเราถนนหลาย ๆ เส้นก็มีการเลือกใช้งานอุปกรณ์จราจรต่าง ๆ มาติดตั้งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด เช่น เสาล้มลุกจราจร ติดตั้งตามทางแยกเพื่อให้รถมองเห็นได้ชัดเจน, หมุดถนนสะท้อนแสง สำหรับการมองเห็นเส้นทางหรือเลนในการขับขี่ยามค่ำคืน, อุปกรณ์ดูดซับแรงกระแทก ในกรณีทางโค้งหรือทางอันตรายที่อาจทำให้รถไถลออกจากถนนไปชนก็ช่วยให้โอกาสเสียชีวิตน้อยลง หรือแม้แต่การติดตั้ง ป้ายจราจร ตามจุดต่าง ๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้วคนไทยเรายังขาดวินัยต่อการใช้รถใช้ถนนอย่างมากบวกกับกฎหมายที่ไม่แข็งแรงมากพอจึงทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นถนนสายหลัก ถนนสายรอง หรือแม้แต่ตามตรอก ซอย ต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นจนยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงนั่นเอง
      อย่างช่วงเวลาที่มักเกิดอุบัติเหตุในแต่ละปีนั้นจะเป็นช่วงเทศกาลหยุดยาวของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่, เทศกาลวันสงกรานต์ โดยเราจะเรียกช่วงเวลาของเทศกาลเหล่านี้ว่าเป็น 7 วันอันตราย สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน ทั้งนี้มีสถิติระบุออกมาอีกว่าในช่วง 7 วันอันตรายนี้อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าต่อวัน หรือเทียบให้แคบลงก็ประมาณ 2 ครั้งต่อชั่วโมง
      แต่นอกจากเรื่องของพฤติกรรมการขับขี่ที่ยังไม่ดีพอแล้ว สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ยังมีไม่ว่าจะเป็น การเมาแล้วขับ, การใช้มือถือขณะขับรถ, ไฟจราจรไม่มีความสว่างมากพอในช่วงเวลากลางคืน, พื้นถนนไม่เรียบ ไม่ความขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ รวมถึงปริมาณของผู้ขับขี่บางเส้นทางที่มีมากเกินไป ทุกอย่างล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกจากอุบัติเหตุดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
      ร้านไทยจราจร เองก็ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งประเทศไทยของเราจะสามารถลดจำนวนของผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนถนนได้มากกว่านี้ คงไม่มีใครอยากเห็นความสูญเสียแม้คน ๆ นั้นอาจไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่ใช่คนรู้จักก็ตาม เมื่อใดที่เกิดความสูญเสียมันคือความเศร้าโศกเสียใจ เริ่มต้นแก้ปัญหานี้ง่าย ๆ ด้วยตัวของคุณเอง หากทุกคนคิดได้แบบนี้เชื่อว่าในอนาคตจะเกิดเรื่องร้ายต่าง ๆ ลดลงแน่นอน อยากให้ทุกคนคำนึงเรื่องนี้ไว้ให้มาก ๆ ยังไงก็คนไทยเหมือนกัน ไม่อยากให้หลาย ๆ ชีวิตต้องมาจบลงบนท้องถนน