ผู้นำด้านอุปกรณ์จราจร ที่ทันสมัย และครบวงจร มากที่สุด ในประเทศไทย!!

ด่วน!! ทางเรามีบริการดูหน้างานเพื่อตรวจสอบหรือวัดขนาดพร้อมให้คำปรึกษา ฟรี...คลิ๊กเลย!!

5 วิธีแก้ปัญหา คนชอบขับรถย้อนศร

Placeholder image

 

      การขับขี่ยวดยานพาหนะ สิ่งหนึ่งที่สำคัญและช่วยให้การจราจรคล่องตัวได้ดีนั้นก็คือการปฏิบัติตามสัญญาณจราจร รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้องวิ่งตามเส้นทางสัญจรที่ควบคุมไว้ ไม่วิ่งย้อนศร หรือเลี้ยวในจุดที่ห้ามเลี้ยว ซึ่งรถยนต์หลายคันก็ยังคงฝ่าฝืน ขับขี่ย้อนศรจนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุหรือการจราจรที่ติดขัดได้นั่นเอง เพื่อการควบคุมการสัญจรให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และวิธีการควบคุมการจราจรที่เหมาะสม โดยร้านไทยจราจรอยากจะขอแนะนำให้ใช้อุปกรณ์จราจรต่อไปนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการขับรถย้อนศร

 

      1. การติดตั้งที่บังคับเดินรถทางเดียว เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นคลื่นที่ควบคุมให้รถลดความเร็วลง แต่ด้วยความพิเศษของอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการขับขี่ย้อนศรโดยเฉพาะ จึงมีการติดตั้งแท่งเหล็กหรือหนามแทงล้อเอาไว้ ซึ่งหนามชนิดนี้จะไม่ทำงานหากรถวิ่งมาตามเลนที่กำหนด แต่หากวิ่งย้อนศรเข้ามาก็จะถูกหนามทิ่มแทงล้อจนทำให้ลมยางรั่ว เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งการติดตั้งได้ง่ายตามที่ผู้ใช้งานต้องการ และมีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับได้แม้รถราที่วิ่งผ่านจะมีน้ำหนักมากถึง 30 – 50 ตัน หากเกิดกรณีฉุกเฉินเช่นไฟไหม้ซึ่งจำเป็นต้องอพยพคนอย่างเร่งด่วนไม่สามารถควบคุมการสัญจรได้ตามปกติ ก็สามารถปิดการใช้งานของหนามได้ อย่างไรก็ตามอาจต้องมีการติดป้ายเตือนผู้ขับขี่ด้วยเพื่อป้องกันการร้องเรียนในภายหลัง

      2. การนำที่กั้นถนนชนิดหนามแทงล้อมาใช้ เป็นอุปกรณ์ป้องกันการย้อนศรในลักษณะพกพา เป็นการวางกั้นเมื่อต้องการใช้งานทันทีโดยไม่มีหมุดยึด ผลิตจากพลาสติกชนิด PA และ PE ที่มีความแข็งแรงทนทาน และยืดหยุ่นสูง หากไม่ใช้งานแล้วสามารถพักเก็บไว้ในกล่องได้ มีความยาวเมื่อกางออกเต็มที่ 8 เมตร ความสูงของหนามอยู่ที่ 40 มิลลิเมตร ซึ่งเพียงพอที่จะก่อให้เกิดความเสียหายกับยางรถยนต์ที่ฝ่าฝืนขับขี่ผ่านเข้าไป เพื่อป้องกันรถไม่ให้ย้อนศรไปยังจุดที่เกิดอุบัติเหตุหรือสิ่งผิดปกติ อันจะก่อให้เกิดอันตรายกับรถที่ฝ่าเข้าไปแบบกะทันหันได้ดี อุปกรณ์มีน้ำหนักประมาณ 8.3 กิโลกรัม จึงเคลื่อนย้ายตำแหน่งที่วางได้สะดวก

      3. การใช้ป้ายสัญลักษณ์แจ้งเตือน หลายครั้งการขับขี่ย้อนศรอาจมีสาเหตุมาจากการที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่เคยขับขี่ผ่านเข้ามาในบริเวณควบคุม ทำให้พลาดและวิ่งมาในทิศทางที่ไม่ถูกต้องได้ จึงมีความจำเป็นต้องติดตั้งป้ายจราจรเตือนให้ผู้ขับขี่รถราทราบ โดยป้ายที่เหมาะสมกับการย้อนศรก็มีตั้งแต่ป้ายห้ามขับผ่าน ป้ายแจ้งลักษณะของเลนสวน หรือป้ายบอกเส้นทางให้รถไปตามเส้นทางที่กำหนด การติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ควรมีขนาดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ใช้สีสะท้อนแสงเพื่อให้มองเห็นได้ดีมนที่มืด เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมการสัญจรที่มากขึ้น

      4. การใช้แบริเออร์เหล็กกั้นถนน เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยป้องกันไม่ให้มีการขับขี่ย้อนศรเข้ามารบกวนผู้สัญจรคนอื่น ๆ ได้ดี นิยมติดตั้งตั้งแต่บริเวณทางเข้าเพื่อป้องกันไม่ให้รถขับขี่ฝ่าเข้ามา และเพื่อความคงทนถาวรสามารถเลือกประเภทที่ฝังเก็บลงดินได้ ซึ่งควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ใช้เวลาในการเปิดปิดเพียง 4 – 6 วินาทีเท่านั้น เพราะหากจำเป็นต้องเปิดทางฉุกเฉินหรือเปลี่ยนเลนสัญจรในชั่วโมงเร่งด่วนจะสามารถเก็บแบริเออร์ชนิดนี้ลงดินได้ ผลิตจากวัสดุ HQ Steel ที่มีความทนทานสูง มีการทาด้วยสีสันสดใสเพื่อให้สังเกตเห็นได้ง่ายและมีหลายขนาดให้เลือก ขึ้นอยู่กับความกว้างของท้องถนนที่ต้องการปิดกั้นไม่ให้สัญจรขับผ่านนั่นเอง ความสูงเมื่อเปิดใช้งานอยู่ที่ 450 มิลลิเมตร

      5. การติดตั้งเสาแบ่งเลน การย้อนศรในหลายกรณีมักเกิดเมื่อมีช่องทางให้รถหรือจักรยานยนต์สามารถขับฝ่าย้อนศรออกไปได้ ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการติดตั้งเสาแบ่งเลน ซึ่งเป็นเสาทรงสูงที่สามารถติดตั้งตามจุดควบคุมต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งเสาแบ่งเลนที่ดีควรมีความสูงไม่น้อยกว่า 65 เซนติเมตร และควรมีการทาสีสะท้อนแสงที่อุปกรณ์เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ดีทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เสาแบ่งเลนบางชนิดยังเพิ่มความปลอดภัยให้พาหนะด้วยความสามารถในการล้มลุก มีความยืดหยุ่นที่สูงเพื่อลดแรงกระแทกและความเสียหายที่จะเกิดกับยานพาหนะที่มากระแทกได้

      ด้วยอุปกรณ์ควบคุมการจราจรชนิดต่าง ๆ ที่เหมาะสมและการติดตั้งที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้การควบคุมการสัญจรรถยนต์หรือมอเตอร์ไซด์เป็นไปตามทิศทางที่กำหนด กลายเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น ทั้งยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายการใช้บุคลากรมาควบคุมการสัญจรที่มักเกิดปัญหาการหยุดงาน หรือเกิดอุบัติเหตุทำให้บุคลากรเหล่านั้นบาดเจ็บได้ โดยการเลือกใช้อุปกรณ์ควบคุมการจราจรที่ดีควรพิจารณาชนิดของวัสดุที่นำมาผลิตเพื่อให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมลักษณะต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นวันที่แดดร้อนจัด หรือวันที่หนาวเย็นเนื่องจากฝนตก ยิ่งสามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ตลอดเวลาที่ต้องการเพื่อปรับให้เหมาะกับช่วงเวลาที่ใช้งาน อย่างช่วงเวลาเข้างานที่รถวิ่งเข้างานมากกว่าก็มีความจำเป็นต้องเพิ่มเลนให้รถวิ่งได้สะดวกมากขึ้น แต่ในช่วงเลิกงานก็ควรเปลี่ยนเส้นทางให้รถที่วิ่งออกวิ่งได้สะดวกมากกว่า หรือหากเกิดภาวะฉุกเฉินที่จะเป็นจะต้องเปิดเส้นทางอย่างในกรณีไฟไหม้ ก็ควรปรับอุปกรณ์กั้นเลนเหล่านี้ให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจรทุกคน อันเป็นสิ่งที่ทางร้านไทยจราจรใส่ใจเป็นอย่างมาก

white_paper