ผู้นำด้านอุปกรณ์จราจร ที่ทันสมัย และครบวงจร มากที่สุด ในประเทศไทย!!

ด่วน!! ทางเรามีบริการดูหน้างานเพื่อตรวจสอบหรือวัดขนาดพร้อมให้คำปรึกษา ฟรี...คลิ๊กเลย!!

8 วิธีช่วยแก้ปัญหา รถเมล์สายซิ่ง! ในประเทศไทย

Placeholder image

 

     

           
       ในประเทศไทยมีการกล่าวถึงเรื่องความเร็วในการขับขี่รถเมล์บ่อยครั้งโดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุจราจรมากมาย ทั้งจากการปาดรถเมล์ไปมา การเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว การใช้ความเร็วเกินกำหนด การเบรกอย่างกะทันหัน ฯลฯ ในบทความนี้ ร้านไทยจราจร จึงได้รวบรวม 8 วิธีการแก้ปัญหารถเมล์ซิ่ง หากทำได้ตามนี้ทั้ง 8 ข้อ ปัญหารถเมล์วิ่งด้วยความเร็วสูงและไม่ปลอดภัยจะลดลงได้อย่างแน่นอน

1. ถ้าพบรถเมล์ซิ่ง จะต้องมีการถูกปรับเป็นจำนวนเงินมากขึ้น โดยต้องมีการปรับระเบียบของกรมการขนส่งทางบกหรือขสมก. รวมถึงหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลรถเมล์ของเอกชน ที่ได้สัมปทานในการทำกิจการ เพราะทุกวันนี้ ผู้ขับขี่รถเมล์นั้นไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการต้องรักษากฎจราจร และไม่ได้ถูกควบคุมการขับขี่ที่เน้นความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนั้นการเพิ่มค่าปรับไปที่ส่วนบุคคลให้มากขึ้นก็อาจจะลดปัญหาการขับขี่รถเมล์ซิ่งได้ดีขึ้น

2. การเพิ่มเงินเดือนให้กับคนขับรถเมล์ จากปกติ ค่าแรงของพนักงานขับรถเมล์นั้นจะได้อยู่ที่ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ส่วนต่างที่จะได้ ก็คือจากค่าตั๋วรถเมล์ที่อาจจะได้เพิ่มขึ้นถึงสัปดาห์ละ 1,000 บาท ซึ่งการที่คนขับจะได้ก็ต้องขับรถต่อเนื่อง 8-10 ชั่วโมง (ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าจ้างรายวัน) พวกเขาจึงต้องการหารายได้เพิ่มจากส่วนจากการที่ต้องซิ่งรถ เพื่อรับผู้โดยสารให้ได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่เท่าเดิม โดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็น ที่จะมีผู้โดยสารต้องการใช้บริการมากเป็นพิเศษ การเพิ่มรายได้ให้กับคนขับรถเมล์เหล่านี้ก็จะช่วยแก้ปัญหารถซิ่งได้ดีขึ้น

3. การเพิ่ม อุปกรณ์จราจร สำหรับช่วยแบ่งเลนถนน เช่น การวางกรวยจราจรแบบสะท้อนแสงสีส้มเป็นแนวยาวจะช่วยให้ลดปัญหาการแซงในจุดที่เสี่ยงต่ออุบิตเหตุได้ นอกจากนี้ การใช้ เสาล้มลุกจราจร ก็สามารถกั้นพื้นที่ที่ห้ามแซงรถได้ดีเช่นกัน ถ้าหากนำเสามาวางต่อกันให้เป็นระยะทางมากขึ้น ก็จะเป็นการกันรถเมล์ไว้อยู่ด้านซ้ายของถนน ลดปัญหารถเมล์ซิ่ง หรือวิ่งออกนอกเลนปาดรถเลนอื่น ๆ ได้ดีขึ้น

4. เพิ่มการติดตั้งกล้องวงจรปิด ตามจุดต่าง ๆ มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นบริเวณไฟแดง ป้ายรถเมล์ หรือว่าบริเวณที่มีข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุจากรถเมล์ซิ่งบ่อยครั้ง เพื่อให้ผู้ขับขี่รถเมล์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถและการเปลี่ยนเลนกระทันหัน รวมถึงการรีบปล่อยผู้โดยสารลงแล้วรีบบึ่งรถ เพื่อจะไปรับผู้โดยสารป้ายหน้า แข่งกับรถเมล์คันอื่นที่วิ่งในเส้นทางถนนเดียวกัน ฯลฯ

5. การติดกล้องตรวจจับความเร็วเพิ่มตามจุดต่าง ๆ จะทำให้ตรวจเช็คได้ว่ารถเมล์นั้นซิ่งมาด้วยความเร็วสูงเท่าไหร่ โดยจะมีหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อทำเรื่องเรียกค่าปรับไปยังหน่วยงานต้นสังกัด ไม่ว่าจะเป็นองค์กรของเอกชนที่ได้รับสัมปทานไปหรือการประสานไปที่หน่วยงานราชการเพื่อให้หัวหน้า ตักเตือน หรือลงโทษตามระเบียบขั้นตอน
การติดตั้งกล้องจะช่วยให้ลดปัญหาทำให้ผู้ขับขี่รถเมล์มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยแนะนำว่าควรเริ่มติดตั้งในบริเวณที่มีประวัติว่ามีการขับขี่รถซิ่งบ่อยครั้ง หรือมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุสูง ซึ่งสามารถดูสถิติได้จากหน่วยงานด้านจราจรของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้การจัดสรรเงินงบประมาณค่ากล้องตรวจจับความเร็วมีความคุ้มค่ายิ่งขึ้น

6. เพิ่มการใช้บริการรถขนส่งสาธารณะระบบอื่น เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รถไฟฟ้า BTS รวมถึงทางเรือ ที่มีการคิดค่าใช้จ่ายแบบเหมารายเดือน หรือรายเที่ยวเป็นแพ็คเกจที่มีราคาถูกลง ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความรวดเร็ว มีเวลาในการเดินทางที่แน่นอน เช่น ระหว่างสถานีใช้เวลาประมาณ 2 นาที เท่านั้น ซึ่งการที่ประชาชนหันไปใช้บริการของรถไฟฟ้าในระบบอื่นที่ทันสมัย มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่า ทั้งยังสามารถควบคุมเวลาได้ดีขึ้น จะทำให้ปัญหารถซิ่งลดลง (องค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับรถเมล์ต้องปรับตัวและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถเมล์มากขึ้น เพื่อให้ได้รับความนิยมและมีรายได้กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง)

7. การเพิ่มช่องทางที่ประชาชนจะสื่อสารกลับไปที่หน่วยงานที่ดูแลด้านรถเมล์ ทั้งแง่บวกและลบ เช่น
- การร้องเรียนและแจ้งปัญหารถเมล์ซิ่ง ว่าเกิดเหตุที่ใด โดยที่สามารถค้นหาหลักฐานได้จากภาพในกล้องวงจรปิดและเครื่องตรวจจับความเร็ว
- การชื่นชมผู้ขับขี่ที่มีน้ำใจต่อผู้ใช้บริการและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยแจ้งชื่อคนขับ หรือสายรถเมล์ที่นั่ง พร้อมช่วงเวลา เพื่อการตรวจสอบและให้รางวัลและประกาศนียบัตรต่อไป

8. นอกจากการปรับแก้เรื่องสวัสดิการ ค่าตอบแทนและการจัดอบรมเพื่อแก้ไขพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถเมล์อย่างสม่ำเสมอแล้ว การทำระบบ backlist ห้ามผู้ที่มีประวัติการขับขี่รถเมล์ซิ่ง ไม่ให้กลับมาทำหน้าที่ในการขับขี่รถเมล์อีก โดยอาจกำหนดระยะเวลาไว้ 3- 5 ปี ก็จะทำให้เกิดความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้นได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่า จาก 8 วิธีที่กล่าวมา เป็นเทคนิคที่สำคัญที่จะทำให้ผู้ขับขี่รถเมล์ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการขับขี่รถเมล์เพื่อบริการประชาชนยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้อุปกรณ์จราจรอย่างเช่น กรวยจราจร หรือ เสาล้มลุกจราจร ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะว่าสามารถใช้ในการควบคุมเลนถนน ใช้ห้ามรถแซงในจุดที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง ทั้งนี้ ร้านไทยจราจร มีสินค้าด้านความปลอดภัยในการจราจรมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถชมได้ในเว็บไซต์ www.trafficthai.com ตลอด 24 ชั่วโมง








white_paper