📌8 อุปกรณ์เซฟตี้ และ แนวทางการปฎิบัติ บน คลังสินค้า

จุดประสงค์ของอุปกรณ์เซฟตี้

คือ การป้องกันและลดความรุนแรงของอุบัติเหตุจากหนักให้เป็นเบา

1. เข็มขัดพยุงหลัง – อุปกรณ์ตัวนี้จะช่วย พนักงาน ของคุณในเรื่องการยกของหนัก และ ป้องกันอาการบาดเจ็บจากการยก เพียงให้พนักงาน ใส่เข็มขัดพยุงทุกครั้งก่อนการเคลื่อนย้ายสินค้าหนักๆ ก็สามารถเซฟได้ทันที

 

2.บันไดหนีไฟ – ถึงเราจะเตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว แต่ เราไม่มีทางรู้ว่า อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นมีติดไว้ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้นะค่ะ หากมีแล้วเราแนะนำ – ให้จัดเก็บไว้บริเวณที่เปิดกว้างและหยิบใช้งานได้ง่าย โดยใช้หลักการเดียวกับถังดับเพลิงเลยค่ะ

 

3.ป้ายตั้งถังดับเพลิง – ชัดเจนและมองเห็นได้ง่ายยิ่งกว่า หากถังดับเพลิงที่ติดตั้งมีป้ายตัวนี้ใช้ควบคู่ไปด้วย ข้อดีคือ – ป้ายที่ชัดเจน และ ความคล่องตัว ที่เราสามารถหยิบไปใช้ได้เลย ไม่เหมือนถังดับเพลิงที่ติดตั้วอยู่ในตู้

 

4.ไซเรนมือหมุน – คือสิ่งที่ใช้เตือนหรือแจ้งเหตุด่วน ใช้งานได้ดีกับ พื้นที่บริเวณกว้าง และ มีคนเยอะ จุดเด่นคือความคล่องตัว พกพาง่าย ไม่ต้องเสียบปลั๊ก หรือ ตั้งเป็นสถาณี ก็หมุนแจ้งเตือนได้ทันที

 

5.หมวกและแว่นตานิรภัย – อุปกรณ์เซฟตี้พื้นฐานที่คุณควรมีไว้ สำหรับส่วนบุคคล เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ ที่มีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์เบ่อยครั้ง หรือ บริเวณที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ เราแนะนำ – ให้ใช้เสื้อจราจรสะท้อนแสงควบคู่ไปด้วยเลย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้มากกว่า ทั้งกลางวัน และ กลางคืน

 

6. รองเท้าเซฟตี้ – ป้องกันของมีคม ของแข็ง กระแสไฟฟ้ารั่วไหล และ สารเคมีแปลกปลอม ข้อควรระวัง คือ วัสดุของรองเท้า และ เกรดการป้องกัน : เลือกใช้อย่างระมัดระวัง และ ดูความเหมาะสมต่อหน้างานกันด้วยนะค่ะ

 

7.หน้ากากและที่อุดหู – มลภาวะ ทางเสียง กลิ่น ฝุ่น ควัน และ สารแปลกปลอมที่ลอยมาทางอากาศ คือปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวชี้วัดสุขภาพของพนักงาน เพราะฉะนั้น ต้องให้ความสำคัญด้วยนะค่ะ

 

8.ถุงมือนิรภัย – วิธีการเลือกจะคล้ายคลึงกับรองเท้าเซฟตี้ ที่จะขึ้นอยู่กับหน้างาน และ สถานการณ์ที่พนักงานต้องเจอ อาทิเช่น ถุงมือกันความร้อน, ของมีคม, สารเคมี และ ชนิดกันไฟฟ้า เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ความเร็วในการผลิตที่คงที่