10 ป้ายจราจรในยุโรปที่ต้องเข้าใจ ก่อนจะขับรถเที่ยวยุโรป

ป้ายจราจร

หนึ่งข้อสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรรู้เบื้องต้นก่อนขับรถเที่ยวในแถบประเทศยุโรป คือการเรียนรู้สัญลักษณ์ ป้ายจราจร ที่ติดตั้งอยู่บนท้องถนน เพราะประเทศในแถบยุโรปให้ความสำคัญกับเรื่องการเคารพกฎจราจรเป็นอย่างมาก หากฝ่าฝืนหรือกระทำผิดจะมีบทลงโทษที่ค่อนข้างรุนแรง

ร้านไทยจราจรจึงได้รวบรวมสัญลักษณ์ ป้ายจราจร พื้นฐานที่นักท่องเที่ยวควรรู้สำหรับทำความเข้าใจและปฏิบัติตามเมื่อมีโอกาสได้ขับรถด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดและป้องกันการกระทำผิดกฎแบบไม่รู้ตัว ซึ่งสัญลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวควรเรียนรู้ในเบื้องต้น ประกอบด้วย

ป้ายจราจร

1.ป้ายห้ามเข้า วงกลมขาวกรอบแดงมีความหมายว่า ห้ามเข้า ห้ามของความหมายป้ายนี้หมายถึง ห้ามยานพาหนะทุกชนิดเข้าอย่างเด็ดขาด ส่วนมากแล้วมักพบตามแหล่งชุมชนหรือศูนย์รวมแหล่งการค้าจำพวกถนนคนเดินทำนองนั้น เพราะจะเป็นสถานที่สำหรับการเดินทางเท้าแต่เพียงอย่างเดียว

ป้ายจรา

2.ป้ายลักษณะแบบนี้ ก็คือป้ายห้ามเข้าเช่นกัน แต่แตกต่างจากป้ายด้านบนตรงที่มีการระบุชนิดยานพาหนะที่ห้ามไว้ในป้าย ในต่างประเทศจะมีถนนไม่น้อยที่เป็นเส้นทางบังคับให้เดินรถได้ทางเดียว โดยเฉพาะตามหมู่บ้านหรือตรอกซอกซอยต่าง ๆ เมื่อเจอสัญลักษณ์วงกลมแถบสีแดง ตรงกลางเป็นพื้นสีขาวที่ระบุชนิดยานพาหนะ นั้นหมายความว่าห้ามยานพาหนะที่อยู่ในป้ายนั้นเข้าอย่างเด็ดขาด

ป้ายจราจร

3.ป้ายจำกัดความเร็ว หมายความว่า คุณไม่สามารถขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าตามที่ป้ายกำหนด จากภาพด้านบนจะสามารถขับได้เร็วที่สุดเพียง 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง เท่านั้น หากเหยียบเกินไปแค่เพียง 51 เมื่อใด กล้องหรือเรดาร์ที่ตำรวจติดตั้งซ่อนไว้ข้างทาง จะสามารถจับได้ทันที จากนั้นก็เตรียมตัวรับใบสั่งและเสียค่าปรับได้เลย แอบเตือนอีกนิดว่าค่าปรับฐานขับรถเร็วเกินจำกัดโหดกว่าบ้านเราหลายเท่าเลยทีเดียว

ป้ายจราจร

4.ป้ายสิ้นสุดการจำกัดความเร็ว ในประเทศไทยยังไม่มีป้ายสัญลักษณ์นี้ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นป้ายวงกลมสีขาว ระบุตัวเลขความเร็วตรงกลางและมีเส้นแถบสีดำคาดทับ นั้นแสดงถึงการสิ้นสุดเขตจำกัดความเร็ว ซึ่งระยะทางก่อนหน้านี้มีการจำกัดความเร็วที่ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่พอเจอกับสัญลักษณ์นี้ แสดงว่าคุณสามารถขับรถด้วยความเร็วที่มากกว่า 60 กิโลเมตรได้ แต่อย่าประมาทจนเกินไป เพราะประเทศในแถบยุโรปบางประเทศกำหนดความเร็วสูงสุดที่ชัดเจน เช่น สวิตเซอร์แลนด์ กำหนดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือฝรั่งเศสและอิตาลี กำหนดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากพ้นป้ายนี้ไปแล้วแต่ขับเกินกว่าที่กำหนด ก็โดนค่าปรับไม่ต่างกันนะ

ป้ายจราจร

5.ป้ายห้ามจอด ป้ายแบบนี้มักพบเห็นกันบ่อยแล้วในประเทศไทย หมายความว่า ห้ามจอดรถทุกชนิด ถ้าเป็นป้ายด้านซ้ายมือยังพอสามารถจอดได้แบบชั่วคราว เช่น จอดส่งคน จอดเอาของลงจากรถ แต่หากเป็นป้ายด้านขวามือ นั้นหมายถึงห้ามจอดอย่างเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ซึ่งความหมายก็ไม่ได้ต่างจากประเทศไทยใช่ไหมละ แต่ที่อยากเตือนให้ระมัดระวังป้ายนี้ เพราะหากฝ่าฝืนป้ายสัญลักษณ์นี้แล้ว นอกจากจะต้องเสียค่าปรับให้ตำรวจ รถของคุณอาจโดนทำลายจากฝีมือของผู้ไม่หวังดีหรือที่ต่างประเทศเรียกกันว่ามาเฟียก็เป็นไปได้ แนะนำว่าอย่าเสี่ยงจอดเลยจะดีที่สุด

ป้ายจรา

6.ป้ายจอดรถ หากเจอป้ายห้ามจอดตามแบบก่อนหน้าแล้วไม่สามารถจอดได้ คุณสามารถนำรถไปจอดในสถานที่ที่มีป้ายสัญลักษณ์สีฟ้า และระบุอักษรตัว P ตามรูปข้างต้นได้ เพราะนั้นคือสถานที่จอดรถโดยเฉพาะ เลือกจอดได้ตามความเหมาะสมไม่เว้นแม้กระทั่งรถจักรยาน ก็จะมีที่จอดจักรยานโดยเฉพาะ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีการคิดค่าบริการจอดด้วย ถูกแพงก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ในแต่ละเมืองแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป

ppp2

7.ป้ายห้ามแซง ป้ายสัญลักษณ์นี้แสดงให้รู้ว่า คุณห้ามเร่งเครื่องยนต์แซงรถคันที่อยู่ด้านหน้า และรถคันที่อยู่ด้านหลังก็ห้ามเร่งเครื่องแซงรถของคุณเช่นกัน ซึ่งในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงห้ามแซงเฉพาะยานพาหนะที่เป็นรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการห้ามแซงพาหนะชนิดอื่นที่ใช้การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์อีกด้วย

ป้ายหยุด

8.ป้ายหยุด เจอป้ายนี้บนท้องถนนไม่ว่าสถานที่ใดต้องทำการชะลอและหยุดการขับเคลื่อนรถอย่างเด็ดขาด ขอให้จำไว้ว่าในต่างประเทศ คนข้ามถนนคือพระเจ้า ไม่ว่าจะอย่างไรต้องหยุดให้คนข้ามก่อนเสมอส่วนใหญ่แล้วป้ายหยุดนี้มักจะพบเจออยู่คู่กับทางม้าลาย หรือพบเจอร่วมกับทางแยกต่าง ๆ ควรหยุดและสำรวจรถร่วมที่มาจากเส้นทางอื่น หากไม่มีรถมาก็สามารถไปต่อได้ทันที แต่ห้ามลืมนะว่า เจอ ป้ายจราจร แบบนี้ที่ไหนต้องหยุดเสมอ หากฝ่าฝืนก็ต้องถูกจับและปรับไปตามระเบียบแน่นอน

ป้ายทางเอก

9.ป้ายทางเอก หน้าตาแบบนี้อาจไม่คุ้นเคยในประเทศไทย เป็นการแสดงให้ทราบว่าบนเส้นถนนที่รถของคุณขับเคลื่อนอยู่นั้นเป็นถนนเส้นเอกหรือเส้นหลัก คุณสามารถขับรถตรงไปหรือเลี้ยวตามแยกต่าง ๆ ได้ รถที่มาจากในเส้นทางอื่นจะเข้าร่วมเส้นทางกับคุณ จะต้องให้เส้นทางแก่รถของคุณขับเคลื่อนออกไปก่อน จึงสามารถเข้าร่วมเส้นทางได้

10.ป้ายวงเวียน ป้ายนี้มักสร้างความสับสนเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยมือใหม่ เพราะรถยนต์ในต่างประเทศจะเป็นพวงมาลัยคนละฝั่งกับรถยนต์ในไทย การเข้าวงเวียนจึงต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างสูง ต้องชะลอความเร็วและหยุดรอจนกว่ารถภายในวงเวียนจะว่างพอให้คุณเข้าไปร่วมทางได้ และการเข้าวงเวียนให้เข้าเวียนไปตามลูกศรป้าย ที่สำคัญอย่าลืมสังเกตรถที่มาจากด้านซ้ายก่อนเข้านะ ไม่เช่นนั้นได้เกิดอุบัติเหตุกลางวงเวียนเป็นแน่

สัญลักษณ์ ป้ายจราจร เบื้องต้นที่ร้านไทยจราจรแนะนำมาในครั้งนี้ ถือเป็นแค่เพียงป้ายพื้นฐานที่ควรรู้เล็กน้อยเท่านั้น ยังมีสัญลักษณ์อีกหลายรูปแบบที่นักท่องเที่ยวต้องเรียนรู้ก่อนขับในสนามจริง เพราะในต่างประเทศค่อนข้างให้ความสำคัญกับการกระทำผิดกฎจราจรและเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะไม่ยินยอมปล่อยไปง่าย ๆ อีกด้วย