แจกบทความฟรี
8 วิธีทำอย่างไร เมื่อโดนล้วงกระเป๋าที่ต่างประเทศ
ไม่ว่าประเทศใดในโลกก็ล้วนมีมิจฉาชีพแฝงอยู่ในกลุ่มผู้คนทั่วไปด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งแม้ว่านักท่องเที่ยวจะระมัดระวังเพียงใดก็ตามก็มีโอกาสพลาดพลั้งเสียทีกับบรรดามิจฉาชีพเห่านี้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มมิจฉาชีพที่ชอบล้วงกระเป๋าขโมยสิ่งมีค่าของนักท่องเที่ยว เพราะในกระเป๋าเงินนั้นนักท่องเที่ยวมักไม่ได้เก็บแต่เงินทองเท่านั้น แต่ยังมีเอกสารสำคัญอย่างบัตรเครดิต พาสปอร์ต หรือเอกสารสำคัญอื่น ๆ อีกด้วย เมื่อประสบเหตุถูกล้วงกระเป๋าในต่างประเทศร้านไทยจราจรจึงขอแนะนำวิธีกาปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้
1.ตั้งสติให้ดีเอาไว้
เมื่อรู้ตัวว่าถูกล้วงกระเป๋าเงินในระหว่างอยู่ต่างประเทศ ความต่างที่ต่างภาษาอาจทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตระหนกได้ง่าย การกระทำอะไรโดยไม่ได้คิดให้ถ้วนถี่ในระหว่างที่ตื่นตระหนกอาจทำให้นักท่องเที่ยวตกอยู่ในอันตรายมากกว่าการถูกล้วงกระเป๋าได้ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นต้องทำทันทีหลังจากที่รู้ตัวว่าถูกล้วงกระเป๋านั้นก็คือการตั้งสติ ลดอาการตื่นตระหนก และกระทำการอย่างรอบคอบที่สุดให้ได้
2.หาสถานที่ปลอดภัย
การทำงานของบรรดามิจฉาชีพบางครั้งอาจทำเป็นทีม ดังนั้นหากรู้ตัววาถูกล้วงกระเป๋าให้สงสัยไว้ก่อนว่าในบริเวณดังกล่าวอาจมีมิจฉาชีพคนอื่น ๆ เฝ้าดูอยู่ ควรมองหาสถานที่ปลอดภัยอย่าง ป้อมตำรวจ หรือสถานที่ที่มีหน่วยงานรักษาความปลอดภัยอย่างโรงแรม หรือห้างสรรพสินค้าก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยวเอง และป้องกันเหตุร้ายจากมิจฉาชีพกลุ่มอื่น ๆ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน
3.สำรวจความเสียหาย
หากรู้สึกว่าตนเองถูกล้วงกระเป๋า นักท่องเที่ยวควรสำรวจตรวจสอบความเสียหายให้ดีก่อนว่ามีอะไรบ้าง เพราะอาจไม่ได้มีแต่กระเป๋าเงินเท่านั้นที่สูญหายไป อาจจะมีของสำคัญและมีค่าอื่น ๆ สูญหายด้วย อาทิเช่นโทรศัพท์มือถือ เอกสารสำคัญ หรือแม้แต่ตัวกระเป๋าถือ ว่าถูกกรีดหรือทำให้เสียหายเพื่อล้วงกระเป๋าเงินไปหรือไม่ ความเสียหายต่าง ๆ เหล่านี้จำเป็นต้องถูกสำรวจเพื่อให้ง่ายต่อการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีอีกด้วย
4.ระงับบัตรเครดิต
เนื่องจากในกระเป๋าเงินไม่ได้มีเพียงเงินอยู่เท่านั้น แต่มักมีบัตรทางการเงินที่สำคัญอย่างบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือบัตร ATM อยู่ด้วย ซึ่งบัตรเหล่านี้ ทางมิจฉาชีพสามารถนำไปใช้หรือกดถอนเงินของนักท่องเที่ยวได้อีก เจ้าของบัตรจึงควรแจ้งบริษัทที่ให้บริการบัตรต่าง ๆ เหล่านี้เพื่ออายัดบัตรทันที ก่อนที่มิจฉาชีพจะนำไปใช้ และสร้างความเสียหายให้กับนักท่องเที่ยวได้มากกว่าเดิม
5.แจ้งความกับตำรวจ
แม้จะอยู่ต่างประเทศ แต่การแจ้งความเรื่องที่ถูกขโมยทรัพย์สินก็มีความจำเป็นและสำคัญมาก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาทรัพย์สินที่สูญหายไป หรือหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี การหาสถานีตำรวจอาจพึ่งพาการถามไถ่จากผู้คนในท้องถิ่น หรือตรวจสอบจากป้ายจราจรที่บอกทางเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวได้สะดวก หรืออาจใช้วิธีการโทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประสานงานได้อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน
6.ติดต่อประสานงานกับทางสถานทูต
เมื่อจะเดินทางไปยังต่างประเทศ นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบว่ามีสถานกงสุลหรือสถานทูตที่ใดไว้บ้าง เพราะหากกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหน่วยงานส่วนนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกและประสานงานให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ยิ่งในกรณีที่เอกสารสำคัญอย่างพาสปอร์ตหรือวีซ่าสูญหาย การเดินทางต่อในต่างประเทศโดยไม่ติดต่อสถานทูตเหล่านี้อาจกลายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงควรประสานงานกับหน่วยงานเหล่านี้เพื่อออกเอกสารให้ใหม่ หรือประสานงานให้การเดินทางกลับโดยสะดวกและถูกต้องตามกฎหมาย
7.ติดต่อสายการบิน
กรณีที่มิจฉาชีพล้วงเอาบัตรเดินทางกลับของนักท่องเที่ยวไปด้วย นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องแจ้งให้ทางสนามบินทราบด้วย ทางสนามบินอาจขอเอกสารการแจ้งความจากทางตำรวจ รวมทั้งเอกสารจากทางสถานทูตประกอบด้วย ยิ่งหากนักท่องเที่ยวมีการถ่ายเอกสารตั๋วเครื่องบินเก็บเอาไว้ก็ยิ่งง่ายและสะดวกมากขึ้น
8.สำเนาเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เอาไว้
บางครั้งการแจ้งความ หรือเรื่องที่นักท่องเที่ยวได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานทางการทูต หรือธนาคารอาจไม่สามารถดำเนินการเสร็จในเร็ววัน นักท่องเที่ยวจึงควรสำเนา หรือเก็บเอกสารหลักฐานการติดต่อประสานงานต่าง ๆ เหล่านี้เอาไว้ด้วย เพื่อใช้ในการประสานงานหลังเดินทางกลับแล้ว หรือในระหว่างที่ยังเดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่อื่น ๆ ได้อีกด้วย
เพราะการท่องเที่ยวไม่ได้มีแต่เรื่องที่สนุกสนานเพียงอย่างเดียว แต่มีทั้งเรื่องของความปลอดภัยและเรื่องอันตรายต่าง ๆ ที่จะต้องหาทางป้องกันอย่างรอบคอบ แต่แม้จะระมัดระวังตัวเป็นอย่างดีแล้ว ความผิดพลาดก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมความพร้อมอย่างการสำเนาเอกสารเก็บติดตัวเอาไว้ การหาข้อมูลสถานที่ราชการที่สำคัญและจำเป็นอย่างป้อมตำรวจ สถานทูต หรือสถานที่ราชการต่าง ๆ เอาไว้ล่วงหน้า หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ประสานงานแก้ไขเหตุการณ์ได้ทันที รวมถึงการเตรียมพกอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นอย่างไฟฉาย LED Zoom ได้ ที่จะช่วยลดอันตรายได้ดีหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังบริเวณที่มืดหรือเปลี่ยว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นหนทางรับมือที่นักท่องเที่ยวไม่ควรละเลย และต้องเอาใจใส่เมื่อจะออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ นอกเหนือจากการวางแผนท่องเที่ยว อุปกรณ์ถ่ายรูป หรือเสื้อผ้าแล้ว การเตรียมการเพื่อความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ยิ่งในกรณีที่นักท่องเที่ยวออกเดินทางเพียงลำพัง การเตรียมความพร้อมให้ดีก็จะช่วยแก้ไขปัญหาในกรณีที่เกิดการล้วงกระเป๋าได้ง่ายมากขึ้น ทั้งยังเกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินได้เป็นอย่างมาก ร้านไทยจราจรหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การออกเดินทางไม่ว่าไปยังประเทศใด หรือเมื่อใด เมื่อนั้นนักท่องเที่ยวทุก ๆ คนก็จะพบแต่ความสุข ความทรงจำดี ๆ ความสนุกสนานและปลอดภัยตลอดการเดินทาง
ปรึกษาสินค้าและบริการ ฟรี! โทร 02-114-7006