ทำอย่างไร เมื่อโดนตำรวจเรียกตอนขับรถเที่ยวยุโรป

              ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านย่อมน่าจะรู้ดีว่า สิ่งที่น่ากลัวและควรระวังไม่แพ้อุบัติเหตุบนท้องถนนก็คือ ตำรวจจราจร หากกระทำผิดกฎจราจรแล้วถูกตำรวจเรียกก็คงไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าไม่ได้ทำผิดแล้วยังถูกตำรวจเรียกอีก อันนี้สิที่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ
            อันที่จริงแล้วคุณอาจจะไม่ได้กระทำอะไรผิดเลยก็ได้ เพียงแต่ตำรวจเขาอาจจะเรียกตรวจความเรียบร้อยตามหน้าที่ หรือคุณอาจจะกระทำผิดอย่างไม่รู้ตัวก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าคุณจะถูกตำรวจเรียกด้วยกรณีใด การปฏิบัติตามคำสั่งของตำรวจจะทำให้คุณปลอดภัยมากที่สุด ยิ่งถ้าหากเป็นกรณีฉุกเฉินเวลาไปท่องเที่ยวในต่างบ้านต่างเมืองและถูกตำรวจเรียกด้วยแล้วละก็ อย่าขัดขืนไม่ว่าประการใดโดยเด็ดขาด เพราะตำรวจต่างประเทศไม่เหมือนตำรวจเมืองไทยนะ หากขัดขืนเพียงนิดเดียวเขาอาจจะยิงคุณตายได้เลยทีเดียวและด้วยในปัจจุบันกระแสการขับรถเที่ยวด้วยตัวเองในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปกำลังเป็นที่นิยมของคนไทยจำนวนมาก ร้านไทยจราจรจึงมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากนักท่องเที่ยวชาวไทย เมื่อโดนตำรวจแดนยุโรปเรียกควรปฏิบัติตัวดังนี้

1. หยุดรถในที่ที่ปลอดภัยทันที
            เมื่อเกิดถูกตำรวจเรียกให้พยายามหยุดรถ อย่าขับไปเรื่อย ๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ตำรวจเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าคุณคือผู้กระทำผิดที่กำลังคิดจะหลบหนี อาจทำให้รถของคุณโดนยิงเพื่อสกัดกั้นได้โดยไม่รู้ตัว ควรรีบหาที่จอดในบริเวณที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ใช่ว่าสติแตกจนจอดกลางถนนเลยทันที เช่นนั้นแล้วอาจไม่ได้รับอันตรายจากการโดนยิง แต่จะได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุเสียมากกว่า หรือหากขับรถไปเจอ กรวยจราจร หรือ ป้ายหยุดตรวจ นั่นแสดงว่าข้างหน้าอาจมีการตั้งด่านตรวจความเรียบร้อย ให้ชะลอความเร็วและหยุดรถในสถานที่ที่ตำรวจสั่งให้หยุด

2. ห้ามลงจากรถเด็ดขาด
            เพราะหากคุณหยุดรถและลงจากรถทันที อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้เช่นกัน ให้นั่งอยู่บนรถอย่างเฉย ๆ ห้ามกระทำหรือปฏิบัติตัวที่จะส่อให้เกิดความพิรุธ และทางตำรวจจะเดินมาหาคุณที่รถเอง และหากเกิดกรณีถูกตำรวจเรียกในที่เปลี่ยว อย่าเพิ่งลดกระจกลงอย่างเด็ดขาด สังเกตให้ดีว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพปลอมตัวมาก็เป็นได้ รอให้ตำรวจมาเคาะกระจกเรียกจะดีกว่า

3. ไม่ดับเครื่อง มือจับพวงมาลัย
           นอกจากจะห้ามลงจากรถยนต์แล้ว มือทั้งสองข้างของคุณจะต้องนำขึ้นมาจับพวงมาลัย เพื่อให้ตำรวจที่กำลังจะเดินมาเขามองเห็น ห้ามเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดนิรภัย หรือหยิบเอกสารใด ๆ เด็ดขาด เป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณไม่มีอาวุธใด ๆ ในมือที่จะสามารถทำร้ายเขาได้ เพราะโดยปกติแล้วสัญชาตญาณของคนเรา เมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ก็มักจะกังวลและเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง เลยเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์หรือค้นหาเอกสารต่าง ๆ เพื่อนำมาแสดงตัวตน แต่นั้นอาจจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับตำรวจได้

4. ห้ามขัดขืนและให้ความร่วมมือ
            อย่างที่รู้ว่าตำรวจเมืองนอกมีความชำนาญและเก่งกาจมากแค่ไหน หากคุณขัดขืนแม้แต่นิดเดียวอาจถูกยิงสวนมาทันทีก็ได้นะ ฉะนั้น ควรปฏิบัติตามคำสั่งและไม่ขัดขืนอย่างเด็ดขาด หากตำรวจขอตรวจเอกสารอะไรก็หยิบยื่นให้เขาไป ซึ่งส่วนมากแล้วเอกสารที่จำเป็นต้องใช้เมื่อโดนตำรวจเรียกประกอบด้วย ใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นหลัก ใบประกันภัยรถยนต์ หรืออาจจะขอดูหนังสือเดินทางได้ในบางกรณี หากเขามีการสอบถามข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม ไม่แน่ว่าหากกระทำผิดเรื่องเล็กน้อย อาจได้รับการอนุโลมให้ปล่อยตัวโดยไม่เสียค่าปรับสักบาทเลยก็ได้นะ

5. ไม่แสดงกิริยาที่ส่ออันตราย หรือแสดงออกด้วยความไม่พอใจ
             อย่าลืมว่าคุณคือนักท่องเที่ยว มิใช่ประชาชนในประเทศนั้น ตำรวจเขาอาจจะไม่ได้ใจดีกับนักท่องเที่ยวเสมอไป หากคุณไปแสดงกิริยาที่ส่อไปในทางการก่อให้เกิดอันตรายโดยที่อาจจะไม่รู้ตัว หรือแสดงท่าทางที่ไม่พึงพอใจ ความผิดของคุณจากที่เป็นเรื่องเล็ก ๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เช่นกัน เคยได้ยินข่าวในไทยเรื่องตำรวจไม่พอใจและยัดเยียดข้อหาไหมล่ะ ต่างประเทศก็มีตำรวจประเภทนี้ไม่แพ้เมืองไทยหรอก

6. ค่าปรับชำระที่ไปรษณีย์
             หากผ่านการเจรจามาแล้วแต่ไม่เป็นผล ก็คงต้องยอมรับความผิดนั้นไปอย่างจำนน ตำรวจเขาก็จะเขียนใบสั่งคล้าย ๆ กับประเทศไทยนั้นแหละ เพียงแต่ใบสั่งนั้นต้องนำไปชำระที่ไปรษณีย์หรือสถานที่ที่ได้รับอนุญาต จะไม่มีการรับชำระตรงจุดนั้นทันทีเหมือนอย่างเช่นที่เห็นกันบ่อย ๆ ในบ้านเรา อย่าเอาแต่ความสะดวก พยายามยัดเยียดเงินค่าปรับนั้นให้กับตำรวจโดยตรงเป็นอันขาด เพราะการกระทำลักษณะนี้อาจสร้างความเข้าใจผิดคิดว่าคุณกำลังจะขัดขืนก็เป็นได้ หรือไม่แน่ว่าอาจเป็นการเข้าข่ายยัดเยียดเงินให้กับตำรวจได้เช่นกัน

            เราหวังว่า คำแนะนำการปฏิบัติตัว 6 ขั้นตอนข้างต้น จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้กับนักท่องเที่ยวที่มีแผนจะขับรถเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง แต่ข้อเพิ่มเติมอีกนิดว่า สิ่งที่สำคัญกว่าการปฏิบัติตัว คือ สติ เมื่อโดนตำรวจเรียกขอให้จำไว้ว่าคุณแค่อาจกระทำผิดกฎจราจรเพียงเท่านั้น คุณไม่ได้ไปฆ่าใครตาย อย่าลนลานและพยายามควบคุมสติของตัวเองให้มากที่สุด เพราะหากคุณขาดสติเมื่อใด จะส่งผลถึงการปฏิบัติตัว อาจกลายเป็นกิริยาที่ส่อแววให้เกิดพิรุธและสร้างความเข้าใจผิดได้ ทีนี้ละก็คงไม่จบแค่เรื่องการกระทำผิดกฎจราจรอย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดีจากร้านไทยจราจร ผู้นำด้าน ป้ายจราจร และ อุปกรณ์จราจร คุณภาพสูง