ข่าวการเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนแต่ละครั้งเป็นข่าวที่น่าสลดใจอย่างมาก เพราะอุบัติเหตุที่เกิดบนทางด่วนนั้นจะทวีความรุนแรงมากกว่าทางธรรมดา เนื่องทางด่วนเป็นทางยกระดับขึ้นเหนือพื้นดินที่รถทุกคันต้องขับขี่กันด้วยความเร็วสูง ทั้งยังมีทางแยกไปออกตามถนนต่าง ๆ มากมาย ป้ายบอกทางมีความสับสนซับซ้อน ต้องอาศัยความชำนาญและการศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง ถ้าหากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถย้อนกลับไปเส้นทางเดิมได้ และอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว ผู้ที่ใช้เส้นทางนี้จึงต้องมีสติ ไม่ประมาท และระมัดระวังในการขับขี่เป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องควบคุมรถของตนเองแล้ว ก็ยังต้องระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากรถคันอื่นอีกด้วย

 

              โดยปกติการสัญจรผ่านทางด่วนก็อันตรายและน่ากลัวมากอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างที่ไม่มีใครอยากให้เกิดอย่างเช่น รถเจ้ากรรมที่ขับมาดันมาเสียบนทางด่วนเสียอย่างนั้น ผู้ขับขี่จะต้องทำอย่างไรให้ปลอดภัยกับตัวเองมากที่สุดกัน? ในวันนี้ร้านไทยจราจรเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ จึงขอเสนอแนวทางช่วยเหลืออย่างคร่าว ๆ เพื่อเป็นความรู้และทักษะติดตัวให้เกิดประโยชน์แก่คุณผู้อ่านได้นำไปใช้ในยามวิกฤต

เมื่อรถสุดรักของคุณเกิดเสียบนทางด่วนสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือตั้งสติให้ดี อย่าเพิ่งตื่นตระหนกหวาดกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น ให้คุณหายใจเข้าออกช้า ๆ แล้วประเมินถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่ารถของคุณมีความผิดปกติอะไร โดยที่อย่าเพิ่งออกจากรถไปดู แล้วทำตามสิ่งที่ทางเราแนะนำดังต่อไปนี้

 

           1. เปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าท่าทางรถของเราจะมีปัญหาจริง ๆ ให้คุณเปิดไฟฉุกเฉินไว้ก่อนที่จะชะลอรถ เพื่อให้รถคันที่ขับตามมารู้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีขึ้นกับคุณ และเป็นการส่งสัญญาณให้เขาชะลอความเร็วและตัดสินใจเบี่ยงหลบรถของคุณได้ทัน ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันและย่ำแย่ขึ้นกว่าเก่า อย่างเช่น ถ้าหากคุณชะลอรถโดยทันทีโดยไม่เปิดไฟฉุกเฉิน อาจทำให้รถที่อยู่ทางด้านหลังซึ่งขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนรถของคุณได้ นอกจากนี้ยังควรเปิดไฟหรี่ทิ้งเอาไว้ด้วย เพราะสีแดงจากไฟหรี่จะช่วยให้รถคันอื่นสามารถมองเห็นจากระยะไกลได้ชัดเจนด้วย

 

          2. อย่าจอดรถบนช่องเดินรถปกติเป็นอันขาด นอกจากในกรณีที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เท่านั้น เพราะจะเป็นการกีดขวางการจราจรของรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงและไม่ทันได้ระมัดระวัง ทางที่ดีควรลองพยายามประคองรถของคุณเข้าไปจอดไว้ที่จุดพักรถ หรือไหล่ทางด้านซ้ายของทางด่วนให้ได้ นั่นจะลดความเสี่ยงที่รถคันอื่นจะมาเฉี่ยวชนคุณได้ระดับหนึ่ง

 

          3. ติดป้ายสะท้อนแสง โดยที่ทางข้อกฎหมายระบุเกี่ยวกับกรณีที่มีรถเสียบนทางด่วนไว้ว่าให้ใช้ ป้ายเตือน ที่มีลักษณะเป็นแผ่นโลหะสามเหลี่ยมด้านเท่า ขนาดยาวไม่ต่ำกว่าด้านละ 50 เซนติเมตร ติดด้วยแถบสะท้อนแสงพื้นสีขาว ขอบสีแดงซึ่งมีความกว้าง 5 เซนติเมตร ตรงกลางมีเครื่องหมายเตือนสีดำ นำไปตั้งไว้ท้ายรถห่างจากจุดจอดรถเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 50 เมตร เพื่อให้รถที่ขับผ่านมาสังเกตเห็นและระมัดระวังได้ทัน

 

            4. เปิดฝากระโปรงท้ายรถเพื่อให้รถที่ตามมาสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในตอนกลางคืน แนะนำให้คุณติดป้ายสะท้อนแสงดังกล่าวไว้ที่ท้ายรถด้วย หรือใช้ ไฟหมุน หรือไฟไซเรนตั้งไว้บนฝาท้ายรถแทน

 

            5. อย่าลงมาจากรถเป็นอันขาด การลงมาจากรถเพื่อยืนขอความช่วยเหลือริมทางด่วนที่มีรถพุ่งทะยานไปมาด้วยความเร็วเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง หากคุณต้องเจอเหตุการณ์นี้ขอให้คุณใจเย็นเข้าไว้และกลับไปรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ภายในรถ เพราะรถที่วิ่งผ่านมาจะไม่ทันได้ระวังและสังเกตคนอย่างแน่นอนโดยเฉพาะในยามวิกาล

 

            6. ติดตั้งสัญญาณไฟฉุกเฉิน LED ฐานแม่เหล็กเพิ่มเติม โดยตั้งไว้ท้ายหรือหน้ารถเพื่อเพิ่มการมองเห็นให้เกิดแก่รถคันอื่นบนทางด่วนและง่ายต่อการสังเกตเห็นของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาให้การช่วยเหลือ

 

          7. อย่าเปลี่ยนยางเอง ต่อให้คุณรู้ว่ารถของคุณมีปัญหาอะไรหรือมียางรถสำรองและที่เปลี่ยนยางรถติดเอาไว้ก็ตาม อย่าลงมาจากรถเพื่อมาเปลี่ยนยางเองเป็นอันขาด อย่าลืมว่าคุณกำลังอยู่บนเส้นทางที่อันตราย หากคุณลงมายืนข้างรถและขะมักเขม้นกับการงัดแงะยางล้อรถของคุณอยู่นั้น จะทำให้คุณไม่ทันได้ระวังรถความเร็วสูงที่ขับมาด้วยความประมาท ปล่อยให้ปัญหาเรื่องรถของคุณเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ขอให้ ณ เวลานี้คุณเป็นห่วงชีวิตของคุณไว้ก่อน

 

            8. โทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน 1543 ขณะที่คุณนั่งรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นั้น ให้คุณโทรไปยังเบอร์นี้เพื่อแจ้งเหตุและบริเวณที่เกิดรถของคุณอยู่แก่เจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะเช็คตำแหน่งของคุณจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง แต่ในกรณีที่มือถือส่วนตัวของคุณไม่สามารถใช้การได้ให้คุณลงไปโทรศัพท์ตู้สีเหลืองที่ติดอยู่ด้านข้างของจุดพักรถแทน

 

           9. โทรแจ้งบริษัทประกันภัย เพื่อแจ้งเหตุรถเสียบนทางด่วน ถ้าหากเป็นไปได้ให้คุณถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานไว้เคลมประกันไว้ด้วย แต่ถ้าคุณเห็นว่าขณะนั้นบนทางด่วนมีความอันตรายมากก็ขอให้คุณรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในรถ เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็จะถ่ายรูปไว้เป็นหลังฐานให้เอง คุณค่อยไปจัดการเรื่องนี้ในภายหลังจากที่ออกจากทางด่วนได้

 

           ร้านไทยจราจรเป็นห่วงในสวัสดิภาพการเดินทางของคุณ เหตุการณ์นี้แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดกับตนเอง ทางเราแนะนำให้ทุกคนมีอุปกรณ์การจราจรที่จำเป็นติดรถไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วย เพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองในภายหลังได้อย่างแน่นอน หากใครที่ต้องการคำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์การจราจรที่ควรมีติดรถเอาไว้ สามารถปรึกษาเราได้ที่ www.trafficthai.com

 

   ปรึกษาสินค้าและบริการ ฟรี! โทร 02-114-7006