แจกบทความฟรี
10 หัวข้อ อบรมพนักงานขับรถส่งสินค้า ทำอย่างไรให้ขับรถปลอดภัย แถม ประหยัดน้ำมัน!!
การเติบโตทางเศรษฐกิจและมีการทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น การอบรมพนักงานขับรถส่งสินค้าให้ขับรถอย่างปลอดภัยและประหยัดน้ำมันจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุ การเสียหายต่อรถและสินค้า และทำให้ควบคุมต้นทุนด้านน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น ที่สำคัญคือทำให้สินค้าส่งถึงลูกค้าได้ตามกำหนด ทำให้มีลูกค้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
ในบทความนี้ ร้านไทยจราจร จึงได้รวบรวม 10 หัวข้อที่จะต้องอบรมพนักงานจัดส่งสินค้าเพื่อการขับขี่รถอย่างปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน มาฝากกัน ดังนี้
-
พนักงานต้องให้ความสำคัญกับการเช็คสภาพของรถให้พร้อมก่อนการขับขี่
ดูแลเปรียบเหมือนเป็นรถของตัวเอง ไม่ว่าพนักงาน 1 คนจะมีรถที่ใช้ขับประจำ หรือเป็นการแบ่งกันขับตามเวร ที่จะมีสมุดบันทึกที่จะบอกได้ว่าพนักงานคนใดใช้รถคันใดจัดส่งสินค้าในช่วงเวลาต่าง ๆ
การตรวจสอบสภาพรถที่จำเป็น ได้แก่ การเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำรถยนต์ไม่ให้ต่ำกว่าขีด Min เพื่อไม่ให้เกิดภาวะเครื่องยนต์ร้อนเกินพิกัด ความสมบูรณ์ของระบบเบรก ระบบเกียร์ เช็คลมยางรถยนต์ต้องเหมาะสมกับน้ำหนักที่บรรทุก เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด รวมถึงการเช็คสภาพของดอกยาง ไม่ควรสึกโล้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุบัติเหตุรถลื่นไถลได้ง่ายด้วย
-
ตัวพนักงานขับขี่เองจะต้องมีความพร้อม
ไม่อยู่ในสภาพที่เหนื่อยเพลียจากการทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเวลาทำงานและขณะขับรถ เพราะจะทำให้สมองคิดตัดสินใจช้า และสูญเสียความสามารถในการควบคุมรถ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งในฐานะที่เป็นพนักงานขับรถ ก็จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบริษัทเพราะว่าไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ตรงตามเวลา และทำให้ต้องเสียค่าปรับแก่ลูกค้าหรือผู้จ้างงานได้
-
ความรู้เรื่องของกฎจราจรที่ต้องจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
เช่น การเข้าใจความหมายของ ป้ายจราจร เช่น การจำกัดความเร็ว เขตห้ามแซง เขตชุมชน ที่ต้องดูคู่กับ สัญญาณไฟจราจร เพื่อความปลอดภัยของผู้คนที่สัญจรและรถคันอื่น ๆ
-
พนักงานขับรถจะต้องสามารถใช้ Google map เป็น
เพื่อเลือกเส้นทางที่เหมาะสมในการส่งสินค้าได้ทันตามเวลาที่กำหนด โดยการใส่ค่าสถานที่ในแอปพลิเคชัน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการจราจร ว่าจากจุด A ไป B จะมีกี่เส้นทางได้บ้าง ใช้เวลาประมาณกี่นาที ระยะทางกี่กิโลเมตร การใช้ Google Map เป็นเทคนิคสมัยใหม่ที่พนักงานขับขี่รถขนส่งสินค้าทุกคนควรต้องเรียนรู้ เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องเสียเวลาไปกับรถติดในเส้นทางที่เลี่ยงได้
-
ต้องพักตามจุดที่เหมาะสม
มีการศึกษาพบว่าในการขับรถระยะทางไกล ควรจะต้องมีการพักทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้พักคลายเครียดบรรเทาความเพลีย ลดอาการปวดเมื่อยซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถมีสมาธิในการขับขี่รถต่อเนื่องในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น หากขับรถเป็นระยะทางไกล ควรจะพักทุก 160 กิโลเมตร จะช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุได้ด้วย ทั้งนี้ช่วงพักสามารถตรวจสอบสภาพของรถ เช็คลมยาง ระดับน้ำในหม้อน้ำ ฯลฯ ได้ด้วย
-
หากจำเป็นต้องจอดพักข้างทาง
ควรใช้ กรวยจราจร มาวางที่พื้น ห่างจากทางท้ายรถไปประมาณ 100-150 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นสังเกตได้ง่าย ช่วยป้องกันอุบัติเหตุรถชนท้ายได้ดีขึ้น และหากเป็นช่วงกลางคืน ในช่วงที่ฝนตก พนักงานขับรถ ควรสวม เสื้อสะท้อนแสง หรือ เสื้อกันฝน สีส้ม ที่ทำให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นมองเห็นได้ดี หากจำเป็นต้องลงจากรถ
-
การขับรถต้องคอยมองกระจกส่องหลังและไม่ขับรถแช่เลนขวา
เพราะเป็นการขัดขวางการจราจร ทำให้รถคันอื่นต้องแซงทางซ้ายแล้วปาดเข้าด้านหน้าอีกที ทำให้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน ทำให้ได้รับความเสียหายและส่งสินค้าล่าช้า เนื่องจากรถพ่วง รถส่งของจะมีความสูงจากพื้นมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ทำให้เกิดจุดอับสายตามาก จึงเป็นความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
-
เมื่อรถที่ขับอยู่ข้างหน้ามีการเร่งความเร็วหนี
เมื่อพนักงานขับรถเปิดไปขอทางเพื่อแซงขึ้นไป พนักงานไม่ควรเร่งตามโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นการเผาผลาญน้ำมันโดยใช่เหตุ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดความขัดแย้งระหว่างกันได้
-
ไม่ควรแตะเบรกบ่อย ๆ
เพราะ ทำให้มีการสิ้นเปลืองของน้ำมันเบรก และทำให้ผ้าเบรกขาดเร็ว ทำให้สิ้นเปลืองค่าซ่อมแซมดูแลรถมากขึ้น และทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเบรกแตก ทำให้รถเสียการควบคุมด้วย
-
การเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
สำหรับการขับขี่ใกล้ ทางม้าลาย หรือเกาะกลางถนน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบถาวรและแบบ เกาะกลางถนนเคลื่อนที่ ที่ติดตั้งบริเวณย่านชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ และต้องลดความเร็วลง เพื่อให้เบรกได้ทัน หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
จะเห็นได้ว่า ทั้ง 10 วิธีที่ ร้านไทยจราจร ได้กล่าวมา เป็นสิ่งที่ทุกบริษัทควรอบรมพนักงานขับรถเป็นระยะ เพื่อให้ตระหนักถึงอันตรายในการขับขี่ด้วยความประมาท และต้องให้พนักงานช่วยกันใส่ใจการขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสมเพื่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นต้นทุนอีกอย่างหนึ่งของบริษัทด้วย จึงจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้ดี และได้รับความนิยมจากลูกค้าในการใช้บริการจัดส่งสินค้าอย่างยาวนาน
ปรึกษาสินค้าและบริการ ฟรี! โทร 02-114-7006