แจกบทความฟรี
10 วิธีป้องกันไม่ให้ คุณโดนแฮ๊คข้อมูลทางการเงิน
เมื่อโลกออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดความสะดวกสบายและรวดเร็วในการทำธุรกรรมต่าง ๆ รวมถึงธุรกรรมทางการเงินด้วย แต่ความสะดวกสบายทางการเงินนั้นนอกจากจะมีประโยชน์ด้านความรวดเร็วแล้ว ก็ยังก่อให้เกิดช่องโหว่ให้บรรดามิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการแฮ๊คข้อมูลทางการเงินของคุณได้ ดังนั้น ร้านไทยจราจร จึงขอแนะนำวิธีการป้องกันการถูกแฮ๊คข้อมูลทางการเงินตามรายละเอียดต่อไปนี้
1.การติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัย
ถือเป็นวิธีที่ง่าย สะดวกและรวดเร็วที่เจ้าของบัญชีทุก ๆ คนสามารถทำได้ไม่ยาก และถือเป็นขั้นตอนรักษาความปลอดภัยของผู้ที่มีข้อมูลทางการเงินเป็นอย่างมาก เพราะบรรดาแฮกเกอร์จะเจาะเข้ามาดึงข้อมูลทางการเงินของเจ้าของบัญชีได้ยากขึ้น แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำการอัพเดทโปรแกรมรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพราะการอัพเดทโปรแกรมให้เป็นรุ่นล่าสุดจะส่งผลต่อความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินโดยตรง พร้อมสแกนไวรัสกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือมือถือของเจ้าของบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
2.หลีกเลี่ยงการกดลิงค์หรืออีเมล์ที่ไม่น่าไว้วางใจ
หลายครั้งที่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินผ่านอุปกรณ์ไอทีของเจ้าของบัญชีได้ผ่านทางลิงค์และอีเมล์แปลกปลอมต่าง ๆ เหล่านี้ หรือบางครั้งก็มาในรูปของโฆษณา หรือข้อความซ้ำ ๆ ที่คุณไม่ต้องการได้ เจ้าของบัญชีจึงควรหลีกเลี่ยงลิงค์หรือลักษณะอีเมล์ที่ไม่ทราบที่มา ให้เหมือนกับการไม่ขับรถผ่าน ป้ายจราจร ห้ามผ่านนั่นเอง
3.การสำรองข้อมูลอย่างเหมาะสม
การสำรองข้อมูลคือการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบที่เข้าถึงยาก ถือเป็นสิ่งที่เจ้าของบัญชีควรจะทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากข้อมูลทางการเงินถูกแฮ๊กไปจริง ๆ ข้อมูลในส่วนของเจ้าของบัญชีเองก็จะไม่สูญหาย แต่ในกรณีที่ไม่ได้สำรองข้อมูลเอาไว้ หากข้อมูลถูกแฮ๊กไปก็จะไม่ทราบเลยว่ามีข้อมูลใดบ้างที่หายไป ซึ่งอาจกลายเป็นความเสียหายที่รุนแรงได้ ดังนั้นการสำรองข้อมูลที่ดีควรจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวในไฟล์หรือพื้นที่ที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึงยาก หรือไม่ได้เลย และอาจใช้โปรแกรมช่วยสำรองข้อมูลมาใช้เพื่อความรวดเร็วและสม่ำเสมอ
4.การตั้งค่ารหัสผ่านที่เข้าถึงยากและปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ
รหัสผ่านที่ดีนั้นก็เปรียบเหมือนการมี ที่บังคับเดินรถทางเดียว ที่ดี เป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลอื่น ๆ เข้าถึงข้อมูลทางการเงินของคุณได้ แต่รหัสผ่านที่ดีควรเข้าถึงได้ยากอย่างรหัสผ่านที่ไม่ได้มีเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรมีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์พิเศษประกอบด้วย เพื่อให้แฮกเกอร์คาดเดาได้ยาก และควรเปลี่ยนบ่อย ๆ เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นด้วย
5.เลือกทำธุรกรรมทางการเงินกับแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น
การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบออนไลน์ ถือเป็นรูปแบบของการเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของคุณได้ เจ้าของบัญชีจึงควรเลือกทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางที่เชื่อถือได้ อาทิเช่นแอปพลิเคชันของธนาคารโดยตรง เว็บไซต์ของสายการบินหรือโรงแรงโดยตรง หรือร้านค้าออนไลน์ที่ชัดเจนอย่างร้าน Lazada หรือ Shopee เป็นต้น
6.เลือกลงโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่เชื่อถือได้เท่านั้น
เนื่องจากโปรแกรมและแอปพลิเคชันได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนอย่างมากมายและแพร่หลายมากขึ้น แต่หลายครั้งที่แฮกเกอร์นั้นใช้ช่องทางเหล่านี้ในการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของเจ้าของบัญชีได้ด้วย จึงควรพิจารณาเลือกลงโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไวรัสอันตรายและปิดกั้นโอกาสที่แฮกเกอร์จะเข้าถึงข้อมูลของเจ้าของบัญชีนั่นเอง
7.หลีกเลี่ยงการใช้สัญญาณ WI-FI สาธารณะในการทำธุรกิจทางการเงิน
สัญญาณ WI-FI สาธารณะคือสัญญาณที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ จึงกลายเป็นเครื่องข่ายที่บรรดาแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของเจ้าของบัญชีได้ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกิจในระหว่างที่ใช้ WI-FI สาธารณะเพื่อเป็นการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของเจ้าของบัญชีโดยกลุ่มมิจฉาชีพ
8.หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไอทีส่วนตัวทำธุรกิจ
โดยมากบัญชีทางการเงินส่วนตัวกับบัญชีทางการเงินสำหรับทำธุรกิจนั้นจะแยกออกจากกันเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบทางบัญชีและภาษีอยู่แล้ว แต่จะยิ่งปลอดภัยต่อการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินมากยิ่งขึ้นหากเจ้าของบัญชีแยกอุปกรณ์ที่เข้าถึงบัญชีทั้ง 2 ส่วนนี้ออกจากกัน เพราะหลายครั้งที่อุปกรณ์ไอทีส่วนตัวจะเสี่ยงต่อการกดเข้าลิงค์หรือสื่อออนไลน์ที่เสี่ยงต่อการถูกแฮ๊กได้มากกว่า เปรียบเหมือนการเลือกใช้ ไม้กระดกอัตโนมัติ แยกจากกันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดอันตรายนั่นเอง
9.ตรวจสอบเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์
สื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีทั้งคุณและโทษ คุณประโยชน์คือช่วยให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ ที่อยู่ห่างไกลได้สะดวกและง่ายมากขึ้น รวมถึงสร้างช่องทางในการทำธุรกิจกับกลุ่มทุนต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างระมัดระวัง ทั้งการถูกหลอก หรือกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลทางการเงินของเจ้าของบัญชีได้อีกด้วย
10.การจัดสภาพแวดล้อมทางไอทีให้ดี
สภาพแวดล้อมที่ใช้ในการจัดวางหรือติดตั้งอุปกรณ์ไอทีนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลความปลอดภัยของข้อมูลต่าง ๆ ที่จัดเก็บเอาไว้เป็นอย่างมาก รวมถึงข้อมูลทางการเงินด้วย จึงควรมีการติดตั้งในสถานที่ปลอดภัย มีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการเข้าถึงอย่าง เสากั้นทางเดิน หรือระบบสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น
การจัดการต่าง ๆ ที่เหมาะสมเหล่านี้จะช่วยให้ข้อมูลทางการเงินของเจ้าของบัญชีมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ร้านไทยจราจร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะต้องไม่มีเจ้าของบัญชีรายใดต้องตกเป็นเหยื่อของเหล่าแฮกเกอร์ที่หวังรวยทางลัดเหล่านี้
ปรึกษาสินค้าและบริการ ฟรี! โทร 02-114-7006