9 เรื่องที่ต้องอบรม กับพนักงานคลังสินค้า เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

การสร้างความปลอดภัยภายในพื้นที่คลังสินค้านั้นจำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบมากมายหลายอย่าง ทั้งสภาพแวดล้อมในการทำงาน เครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย และการปฏิบัติงานของพนักงานคลังสินค้าเองด้วย สำหรับหลักการบริหารงานคลังสินค้าให้ปลอดภัยนั้น ต้องมีการทำความเข้าใจกับพนักงานผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการติดป้ายเตือนเอาไว้ในบริเวณที่ปฏิบัติงาน และการฝึกอบรมทำความเข้าใจ ทางร้านไทยจราจรขอแนะนำหัวข้อการฝึกอบรมที่จำเป็นต่อพนักงานคลังสินค้าดังต่อไปนี้

1.หลักสูตรการขับรถโฟล์คลิฟท์ หรือรถขนสินค้า รถโฟล์คลิฟท์นับเป็นอุปกรณ์สำคัญในพื้นที่คลังสินค้า เพราะช่วยในการยกสินค้าหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ได้ดี มีทั้งแบบที่ใช้แรงคนและเครื่องยนต์ โดยแบบที่เป็นเครื่องยนต์ยังสามารถยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ขึ้นไปยังชั้นวางด้านบนได้อีกด้วย ทำให้การใช้งานเครื่องจักรประเภทนี้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกับผู้ปฏิบัติงานได้ง่าย ทั้งที่มาจากการขับขี่อย่างผิดวิธี การยกสินค้าโดยไม่คำนึงถึงจุดสมดุลของน้ำหนัก รวมถึงการขับขี่เฉี่ยวชนกับสินค้าหรือผู้ปฏิบัติงานคนอื่น ๆ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องฝึกอบรมการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ที่ถูกวิธีให้กับพนักงานคลังสินค้า โดยเฉพาะพนักงานผู้มีหน้าที่ควบคุมรถโฟล์คลิฟท์โดยตรง

2.การควบคุมและจัดการความปลอดภัยในคลังสินค้า นอกจากรถโฟล์คลิฟท์แล้วการใช้อุปกรณ์อื่น ๆ อย่างไม่ถูกต้องยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างเครนยก สิ่งของที่ตกจากที่สูง การยกของหนัก ๆ เป็นเวลานาน ๆ หรือสินค้าที่ไม่ปลอดภัยอย่างสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง เป็นต้น ซึ่งพนักงานที่ปฏิบัติงานในคลังสินค้าจำเป็นต้องรู้วิธีปฏิบัติตนที่เหมาะสมเพื่อสร้างความปลอดภัยในการทำงานอย่างการสวมใส่หมวกนิรภัย หรือเข็มขัดพยุงหลัง เพราะอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยสร้างความปลอดภัยให้ผู้ปฏิบัติงานได้ดี

3.การฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ การเกิดปัญหาอัคคีภัยนับเป็นวินาศภัยที่หากเกิดขึ้น แล้วมีความยากต่อการควบคุม ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานจึงจำเป็นต้องรับการฝึกอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งนอกจากจะช่วยให้การควบคุมสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดค่าเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินได้ และยังเป็นหลักสูตรที่ได้รับการบังคับให้สถานประกอบการทุกแห่งที่มีพนักงานมากกว่า 10 คนขึ้นไปต้องดำเนินการฝึกอบรมให้พนักงานทราบอย่างน้อยปีละครั้งด้วย เป็นการทบทวนเกี่ยวกับจุดสังเกตต่าง ๆ อย่างทางออกฉุกเฉิน หรือป้ายตั้งถังดับเพลิง เป็นต้น

4.การจัดเก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอัตรายอย่างถูกวิธี ภายในพื้นที่คลังสินค้ามักมีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีในแบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง จาระบี และสารเคมีที่จัดเก็บอยู่ภายในคลังสินค้า สารเคมีเหล่านี้หากไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสมก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานได้ จึงควรฝึกอบรมทำความเข้าใจให้ดี

5.การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ตามกฎหมายกระทรวงแรงงานได้บังคับให้สถานประกอบการทุกประเภทจะต้องมีกาฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยประจำสถานประกอบการ โดยจะต้องมีประเภทของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด จำแนกตามประเภทของสถานประกอบการและจำนวนของพนักงาน สถานประกอบการคลังสินค้านับเป็นรูปแบบสถานประกอบการขนส่งคนโดยสารหรือสินค้าโดยทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และรวมทั้งการบรรทุกขนถ่ายสินค้าจะต้องมีการอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับหัวหน้างานและระดับบริหารเมื่อมีพนักงานตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพเมื่อมีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป

6.ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน การทำงานที่เสี่ยงอันตรายหลายครั้งเกิดจากการที่ผู้ปฏิบัติงานทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ จนเคยชิน และละเลยจนเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้ อย่างการปีนขึ้นที่สูงโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน หรือการใช้งานอุปกรณ์ที่ชำรุดโดยไม่แก้ไขให้ดีเพราะเห็นว่ายังทำงานได้ จึงควรฝึกอบรมให้พนักงานรู้ตัวว่าลักษณะการทำงานใดที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยเพื่อหามาตรการควบคุมและแก้ไข

7.การฝึกอบรมคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน นอกจากเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่จะต้องมีประจำคลังสินค้าแล้วตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย โดยกำหนดให้สถานประกอบการที่มีคณะกรรมการความปลอดภัยอันเป็นตัวแทนจากผู้ปฏิบัติงานส่วนต่าง ๆ ขององค์กร โดยคณะกรรมการนี้มีหน้าที่ติดตามและตรวจสอบความปลอดภัยที่เหมาะสมภายในพื้นที่คลังสินค้า การทำงานของอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ อย่างเช่น ป้ายจราจร กระจกโค้งจราจร ยางกันกระแทก เป็นต้น ว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือเหมาะสมอยู่หรือไม่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด

8.การฝึกอบรมเรื่องการป้องกันอันตรายจากสิ่งแวดล้อมในการทำงาน อันตรายในที่ทำงานหลายประการเป็นเรื่องที่ผู้ปฏิบัติงานหรือเจ้าของกิจการไม่คาดคิด จึงควรอบรมทำความเข้าใจให้ทราบว่าลักษณะสภาพแวดล้อมใดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ดังเกินไป สภาวะอับอากาศ หรือความร้อนและความเย็นที่มากเกินไป เป็นต้น

9.การบริหารคลังสินค้าและพัสดุแบบมืออาชีพ การจัดการองค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ของคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับของเสีย หรือสิ่งของที่เสื่อมสภาพอย่างเหมาะสม รวมถึงการจัดเรียงสินค้าอย่างถูกวิธีย่อมส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมและถูกต้อง
ด้วยหลักสูตรการฝึกอบรมที่จำเป็นทั้ง 9 หลักสูตรนี้ จะช่วยสร้างความเข้าใจและกระตุ้นเตือนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนในพื้นที่คลังสินค้าตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับบริหารจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการสามารถจัดการควบคุมจนเกิดความปลอดภัยในการทำงานได้ ยิ่งใช้ร่วมกับป้ายจราจรเพื่อกระตุ้นเตือนความจำแล้ว ทางร้านไทยจราจรก็เชื่อว่าการทำงานในคลังสินค้าของท่านจะเต็มไปด้วยความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเต็มที่

   ปรึกษาสินค้าและบริการ ฟรี! โทร 02-114-7006

อุปกรณ์จราจร มากกว่า 1,000 ชนิด !!

ร้านไทยจราจร คือแหล่งรวบรวมอุปกรณ์จราจรที่ทันสมัยและครบวงจรมากที่สุดในประเทศไทย สินค้าของทางร้านจะมีการอัพเดทใหม่ตลอดเวลา ซึ่งมีผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เพื่อมีความหลากหลายในการตอบโจทย์ และแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานทุกท่าน