10 ป้ายเตือน ที่พบเห็นบ่อย ๆ มีความหมายอย่างไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

                                    ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือยานพาหนะประเภทใดก็ตาม การขับขี่ด้วยความไม่ประมาทมีส่วนช่วยให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างปลอดภัย นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การปฏิบัติตามกฎจราจร และนอกจากสัญญาณไฟที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้ว ป้าย สัญลักษณ์จราจร ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตาม เพราะนอกจากเพิ่มระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนนแล้วยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ยานพาหนะได้ปลอดภัยมากขึ้น 

ทำความรู้จักป้ายแจ้งเตือนจราจร

 

 

                                   ท่านใดที่ใช้รถใช้ถนนบ่อย ๆ เชื่อว่าจะต้องสังเกตเห็นป้ายแจ้งเตือนต่าง ๆ บริเวณริมถนน แต่รู้หรือไม่ว่าป้ายเหล่านี้มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ ป้ายบังคับ เมื่อผู้ขับขี่เห็นป้ายนี้เมื่อไหร่ต้องปฏิบัติตาม ไม่อย่างนั้นจะเป็นการทำผิดกฏจราจร เช่น ป้ายห้ามจอด ป้ายห้ามเลี้ยว เป็นต้น ป้ายให้ข้อมูลที่ทำหน้าที่ให้รายละเอียดที่ผู้ขับขี่ควรรู้ เช่น ป้ายเลี้ยวซ้ายเพื่อไปจังหวัดนนทบุรี ป้ายช่องทางรถประจำทาง เป็นต้น และสุดท้ายคือ ป้ายเตือน ทำหน้าที่แจ้งเตือนผู้ขับขี่ว่ามีสิ่งใดที่ต้องระวังอยู่ข้างหน้า เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้น เช่น ป้ายทางแคบ ป้ายทางตัน ป้ายทางลงลาดชัน เป็นต้น โดยป้ายเหล่านี้มีความสำคัญมากเพราะจะช่วยเพิ่มวินัยการใช้รถใช้ถนน เพิ่มความระมัดระวังแก่ผู้ขับขี่ เมี่อป้ายนี้พังหรือมองเห็นไม่ชัด หน่วยงานราชการรวมถึงเหล่าอาสาสมัคร อปพร. จึงต้องรีบเข้ามาซ่อมแซมทันที

10 ป้ายแจ้งเตือนที่ผู้ขับขี่มักพบเห็นบ่อย ๆ 

             เพราะป้ายแจ้งเตือนบนท้องถนนมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นลองมาติดตามว่าป้ายรูปแบบใดที่มีโอกาสพบเห็นได้บ่อย และหากหน่วยงานหรือองค์กรใดสนใจป้ายเหล่านี้สามารถเลือกชมสินค้าได้ที่ร้านไทยจราจร ร้านที่รวบรวมป้ายงานจราจรเอาไว้อย่างครบครัน

  1. ป้ายทางโค้งซ้ายและทางโค้งขวา

        เรียกได้ว่าเป็น ป้ายเตือน ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ โดยเฉพาะหากขับขี่บนเส้นทางลดเลี้ยวหรือเส้นทางที่มีทางโค้งติดกันหลายโค้ง เพราะหากไม่ระมัดระวังอาจทำให้ขับพุ่งลงข้างทางจนเป็นสาเหตุของการสูญเสียได้ สำหรับป้ายทางโค้งซ้ายและขวา เป็นการแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังด้วยการชะลอความเร็ว โดยหากเป็นการโค้งซ้ายให้ขับรถชิดด้านซ้ายมากขึ้น เช่นเดียวกันหากเป็นป้ายทางโค้งขวาก็ควรขับรถชิดด้านขวามากขึ้น ทั้งนี้ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง 

 

 

  1. ทางคดเคี้ยวเริ่มซ้ายและทางคดเคี้ยวเริ่มขวา

   หากเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ๆ แน่นอนว่าต้องมีโอกาสพบเห็นป้ายเหล่านี้ โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหรือเส้นทางบนภูเขา เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว โดยป้ายทางคดเคี้ยวเริ่มซ้าย หมายถึง การขับขี่เข้าสู่เส้นทางคดเคี้ยวโดยเริ่มจากทางซ้ายก่อน สำหรับป้ายทางคดเคี้ยวเริ่มขวา หมายถึง การขับขี่เข้าสู่เส้นทางคดเคี้ยวโดยเริ่มจากทางขวาก่อน ซึ่งเมื่อพบเห็นป้ายนี้ควรชะลอความเร็วพอสมควร และเพิ่มความระมัดระวัง เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ

 

 

  1. ป้ายสัญญาณไฟจราจร

                        หากเป็นสี่แยกใหญ่ในเมือง อาจไม่ค่อยได้พบเห็นป้ายเหล่านี้มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะป้ายจราจรในเมืองค่อนข้างเด่นชัดและมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว แต่หากเป็นแยกขนาดไม่ใหญ่มากอาจพบเห็นป้ายสัญญาณไฟจราจรได้บ่อย ๆ เพื่อแจ้งเตือนว่าบริเวณนี้มีกล่องสัญญาณไฟจราจรที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด บางครั้งป้ายนี้จะตั้งบริเวณทางที่รถไฟวิ่งผ่าน เพื่อทำหน้าที่แจ้งเตือนให้เพิ่มความระมัดระวังเพราะอาจมีรถไฟวิ่งผ่านมาก็เป็นได้

 

 

  1. ป้ายที่กลับรถข้างหน้า

   สำหรับป้ายนี้เชื่อว่านักขับขี่ ต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดีและเชื่อว่ายังต้องมองหาบ่อย ๆ เพราะจุดกลับรถมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ เช่น กลับรถใต้สะพาน กลับรถบนสะพาน ฯลฯ และด้วยความที่จุดกลับรถมีอยู่หลายแบบทำให้ต้องมีป้ายแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่เตรียมเปลี่ยนเลนและชะลอความเร็ว เพราะคงไม่ดีแน่หากต้องกลับรถด้วยความเร็วสูง ดังนั้น เมื่อเห็นป้ายนี้เมื่อไหร่ แนะนำให้รีบชะลอความเร็ว รวมถึงเปิดสัญญาณไฟเพื่อเป็นการแจ้งเตือนรถคันหลังว่ารถของคุณนั้นกำลังจะกลับรถ

 

 

  1. ป้ายทางโทตัดทางเอก

  อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณทางแยกมักเกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะหากเป็นทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรกำกับ ซึ่งผู้ขับขี่ควรใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะทางแยกเหล่านี้มักมีรถขับพุ่งมาได้ทั้งจากด้านซ้ายและด้านขวา และวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้คือการสังเกตป้ายแจ้งเตือนทางโทตัดทางเอก เพราะข้างหน้าจะเป็นถนน 2 เส้นตัดกัน ทำให้มีรถสวนทางไปมาจำนวนมาก

 

 

  1. ป้ายสิ้นสุดทางคู่

   การขับรถทางคู่หรือเส้นทาง ที่มีรถอีกฝั่งหนึ่งขับสวนมาได้จะไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นักหากมีแผงกั้นเป็นสิ่งกั้นกลางระหว่างรถทั้งสองฝั่ง แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อขับไปเรื่อย ๆ บางเส้นทางอาจไม่มีแผงกั้นหรือเกาะจราจรคอยกั้นกลางอีกต่อไป ป้ายสิ้นสุดทางคู่จึงเป็นป้ายแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังรถอีกฝั่งที่จะขับสวนมาและควรขับชิดซ้าย

 

 

  1. ป้ายทางแคบลงทั้งสองด้าน

        เนื่องจากขนาดของถนนต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อขับอยู่บนถนนหลายเลน แต่ต้องถูกลดให้เหลือเพียง 1-2 เลน โดยป้ายนี้จะทำหน้าที่แจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ทราบว่าถนนด้านหน้าจะแคบลงกว่าปกติ เพราะฉะนั้นต้องชะลอความเร็วและขับขี่อย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้รถเสียดสีกับรถคันอื่น ๆ 

  1. ป้ายสะพานแคบ

                ป้ายประเภทนี้มักตั้งอยู่บริเวณสะพาน ที่พื้นที่ค่อนข้างแคบหรือสะพานที่ไม่สามารถให้รถยนต์ขับสวนกันได้ ซึ่งผู้ขับขี่ควรสังเกตป้ายนี้ให้ดี เพราะอันตรายของการขึ้นสะพานแคบ คือ นอกจากไม่ทราบว่าจะมีรถอีกคันขับสวนมาหรือไม่แล้ว พื้นที่สะพานยังแคบจนอาจทำให้รถเสียดสีหรือชนกันโดยไม่ตั้งใจ เมื่อถึงสะพานจึงควรชะลอความเร็ว บางคนเลือกใช้วิธีบีบแตรเพื่อเป็นการแจ้งเตือนว่ามีรถอยู่อีกฝั่ง ซึ่งวิธีนี่จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ในระดับหนึ่ง

  1. ป้ายถนนลื่น

       อุบัติเหตุอันมีสาเหตุเกิดจากถนนลื่นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะช่วงเวลาที่ฝนตกเท่านั้น เพราะแม้สภาพถนนแห้งก็อาจลื่นได้เช่นกัน โดยมีสาเหตุมาจากโคลน กรวด ทราย ที่อาจทำให้รถทรงตัวลำบากขึ้นจนเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีโอกาสทรงตัวไม่อยู่ได้มากกว่ารถยนต์ หากพบเห็นป้ายนี้แนะนำให้ชะลอความเร็วลงทีละน้อย ห้ามเหยียบเบรกทันทีเพื่อป้องกันการลื่นไถล และหากต้องการเลี้ยวรถควรทำอย่างระมัดระวัง

  1. ป้ายทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง

           เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นข่าวอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถยนต์อยู่บ่อย ๆ แม้จะเป็นทางรถไฟที่มีเครื่องกั้นทางแล้วก็ตาม เพราะหลายครั้งที่คนเราประมาท ขับผ่านเครื่องกั้นทางอย่างฉิวเฉียด หากโชคดีก็สามารถขับผ่านไปได้ง่าย ๆ แต่หากโชคร้ายขับชนเครื่องกั้นทาง แน่นอนว่าต้องได้รับบาดเจ็บทั้งคนและรถ เพราะฉะนั้นเมื่อเจอป้ายนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจฟังเสียงสัญญาณรถไฟควบคู่ไปด้วย และไม่ขับรถตัดหน้ารถไฟโดยเด็ดขาด

   และทั้งหมดนี้เป็นป้ายจราจรเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะในการขับขี่บนท้องถนนผู้ขับขี่มีโอกาสพบเจอป้ายแจ้งเตือนและ ป้ายห้ามเข้า อื่น ๆ ซึ่งระหว่างขับขี่ควรสังเกตตลอดทาง โดยเฉพาะการขับขี่บนเส้นทางไม่คุ้นเคยหรือขับขี่ช่วงเวลาที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ เพราะป้ายเหล่านี้ทำหน้าที่แจ้งเตือน ช่วยให้ขับขี่อย่างระมัดระวังมากขึ้น ลดการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

ป้ายจราจร

 

 

                                      เมื่อป้ายแจ้งเตือนบนท้องถนนมีความสำคัญมากขนาดนี้ ท่านใดที่กำลังมองหาป้ายแจ้งเตือนจราจรประเภทต่าง ๆ สามารถคลิกชมรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ร้านไทยจราจร หรือ trafficthai.com โดยร้านไทยจราจรได้รวบรวมป้ายแจ้งเตือนชนิดต่าง ๆ เอาไว้มากมาย นอกจากนี้ ร้ายไทยจราจรยังมีป้าย สัญลักษณ์จราจร ประเภทอื่น ๆ เช่น ป้ายบังคับ ป้ายให้ข้อมูล รวมถึงอุปกรณ์จราจรต่าง ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับหน่วยงานราชการหรือลูกค้าองค์กรที่ต้องการป้ายและอุปกรณ์จราจรไปใช้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในองค์กรของคุณ ซึ่งรับรองว่าสินค้าจากร้านไทยจราจรนอกจากมีให้เลือกมากมาย ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ยังเป็นสินค้าดีมีคุณภาพอีกด้วย

ที่มาข้อมูล