• แถบสะท้อนแสงเสื่อมสภาพเร็ว : แถบสะท้อนแสงคุณภาพต่ำมักหลุดลอกหรือสีซีดจางหลังใช้งานไม่นาน ทำให้ไม่สามารถสะท้อนแสงได้ดี
• น้ำและฝุ่นเข้าไปในแถบ : ขอบที่ไม่ได้ปิดสนิททำให้สิ่งสกปรกเข้าไปภายใน ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง
• การสะท้อนแสงต่ำ : สติ๊กเกอร์ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้การสะท้อนแสงไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่มืดหรือตอนฝนตก
• สติ๊กเกอร์หลุดลอกง่าย : กาวของสติ๊กเกอร์บางยี่ห้อไม่ทนทานต่อการใช้งานภายใต้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้หลุดลอก
• อายุการใช้งานสั้น : สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมักเสื่อมสภาพเร็ว ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อยครั้ง
• ไม่ทนต่อสภาพอากาศ : ความชื้น แสงแดดจัด หรือฝนทำให้แถบสะท้อนแสงเสียหายหรือหลุดลอก
• ความเสียหายจากรังสี UV : สติ๊กเกอร์สะท้อนแสงบางชนิดไม่ทนต่อรังสี UV ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีหรือประสิทธิภาพลดลง
• ทำความสะอาดยาก : วัสดุที่ใช้ไม่รองรับการทำความสะอาด ทำให้เกิดคราบสกปรกสะสม
• ขนาดไม่เหมาะสม : สติ๊กเกอร์ที่มีขนาดไม่ตรงตามมาตรฐานกรมการขนส่ง อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและการผ่านตรวจสอบ
• ไม่ผ่านมาตรฐาน : สินค้าที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอาจทำให้เกิดปัญหาเมื่อต้องตรวจสอบกับหน่วยงานราชการ

ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบสภาพอากาศ

• อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 10°-38°C
• หากอุณหภูมิต่ำกว่า 10°C ให้ทำพื้นผิวให้ร้อนขึ้นด้วยเครื่องทำความร้อน
• เก็บรักษาเทปสะท้อนแสงไว้ในอุณหภูมิห้อง (25°C)

ขั้นตอนที่ 2 : เตรียมเครื่องมือให้พร้อม

• กรรไกรหรือมีดสำหรับตัดเทป
• ลูกกลิ้งเพื่อรีดผิวของเทปสะท้อนแสงให้เรียบ
• น้ำ ผงซักฟอก และผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวก่อนติด

ขั้นตอนที่ 3 : การเตรียมพื้นผิว

• ล้างพื้นผิวด้วยผงซักฟอกและน้ำเพื่อขจัดสิ่งสกปรก
• ใช้ผ้าที่ไม่มีขุย เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง

ขั้นตอนที่ 4 : เริ่มติดเทปสะท้อนแสง

• ลอกเทปออก
• ดึงม้วนเทปเบาๆ เพื่อยึดเทปสะท้อนแสงให้อยู่ในตำแหน่ง
• ใช้มือกดเทปสะท้อนแสงลงบนพื้นผิวการใช้งาน
• ใช้ลูกกลิ้ง รีดผิวเทปให้เรียบไปกับพื้นผิว